สาวใหญ่แค้นจัดกัดนิ้วเท้าขาดแย่งสติกเกอร์โฆษณาติดหน้าร้าน

สองสาวใหญ่เปิดศึกตบกันแหลกเหตุแย่งสติกเกอร์โฆษณาน้ำอัดลมติดหน้าร้าน เจ้าของร้านค้าสุดแค้นกระโดดกัดนิ้วเท้าร้านเสริมสวยจนขาด ตำรวจรอทั้งคู่รักษาจนหายและดำเนินคดี

เมื่อเวลา11.20 น. วันที่ 16 ธันวาคม พ.ต.ท.สมบัติ แสงสว่าง พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี 

รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บนิ้วขาด เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 5  ต.เนินพระปรางค์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจ ต.เนินพระปรางค์ ที่บ้านเลขที่ดังกล่าวพบเพียงรอยเลือดภายในข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจายล้มระเนระนาด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองพีนำส่งรักษาที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ น.ส.สุวรรณา ประเสริฐสวัสดิ์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย ตามร่างกายมีบาดแผลจำนวนมาก ส่วนที่นิ้วชี้ เท้าซ้าย หลุดขาดหายไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคนคือ น.ส.สุวาลี แซ่ลิ้ม อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ตามร่างกายมีบาดแผลไปทั่ว
 

น.ส.สุวรรณา ให้การว่า ร้านเสริมสวยของตนเป็นตึกแถวซึ่งอยู่ติดกับร้านอาหารตามสั่งของ น.ส.สุวาลี 

โดยทั้งคู่เคยมีปัญหาจุกจิกกันมาก่อนหน้านี้ ปรากฏว่า น.ส.สุวลี ได้นำป้ายโฆษณาน้ำอัดลมซึ่งเป็นสติกเกอร์ ที่ น.ส.สุวลี นำมาปิดไว้ที่เก้าอี้ของร้านตน ซึ่งนำมาวางไว้หน้าร้านเพื่อรับลูกค้าเมื่อตนบอกให้ น.ส.สุวลี แกะออก แต่ น.ส.สุวลี ไม่ยอมและได้พูดย้อนมาว่าให้ตนแกะออกเอง ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้นถึงขั้นใช้กำลังเข้าตบตีกันอย่างชุลมุน ระหว่างนั้นเอง น.ส.สุวาลี ก็ได้ได้ใช้ปากกัดนิ้วเท้าของตนจนขาด ต่อมาผู้ที่เห็นเหตุการณ์จึงได้เข้ามาห้ามปรามจับแยกกันก่อนจะนำตนและน.ส.สุวลี ส่งรักษาที่โรงพยาบาล

ด้านน.ส.สุวลี กล่าวว่า ตนมีปัญหากับ น.ส.สุวรรณา มาก่อนหน้านี้แล้วด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ 

ก่อนเกิดเหตุนั้นยอมรับว่า น.ส.สุวรรณา ได้เดินมาต่อว่าตนเรื่องสติกเกอร์ที่ปิดอยู่ที่เก้าอี้ร้านเสริมส่วน แต่ตนปฏิเสธว่า ตนไม่ได้เป็นคนติด แต่เป็นพนักงานส่งน้ำอัดลม ซึ่ง น.ส.สุวรรณา ก็ไม่ยอมฟังเหตุผล และบอกให้ตนแกะสติกเกอร์ดังกล่าวออก จนเกิดการโต้เถียงและทะเลาะวิวาทกันขึ้น พ.ต.ท.สมบัติแสงสว่าง พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวน ทราบว่า น.ส.สุวรรณา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสริมสวย และ น.ส.สุวาลี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน โดยร้านเสริมสวยได้นำเก้าอี้นั่งสำหรับลูกค้ามาตั้งไว้ที่หน้าร้าน ต่อมาพนักงานส่งน้ำอัดลม ได้นำสติกเกอร์ โฆษณาสินค้า ไปติดไว้ที่ด้านหลังเก้าอี้นั่งของร้านเสริมสวย ซึ่งวางอยู่ในลักษณะหันหลังให้ร้านอาหารตามสั่ง ปรากฏว่าเมื่อ น.ส.สุวรรณา เห็นเข้าจึงบอกให้ น.ส.สุวาลี แกะออก พร้อมกับต่อว่า น.ส.สุวาลี ทำให้ น.ส. สุวาลี โมโหไม่ยอมทำตาม และพูดสวนไปว่า ตนไม่ได้เป็นคนติด ถ้าอยากเอาออก ให้ไปบอกพนักงานส่งน้ำอัดลม สร้างความไม่พอใจให้ น.ส.สุวรรณา ทำให้ทั้งคู่เกิดการโต้เถียงด่าทอกันขึ้น ถึงขั้นใช้กำลังตบตีกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย

ขณะที่กำลังกอดรัดกันอยู่นั้นน.ส.สุวาลี ใช้ปากกัดนิ้วเท้า ของ น.ส.สุวรรณา จนขาดหลุดออกมาจนกระเด็นหายไป 

ก่อนที่จะมีคนเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกันและนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลโดย แพทย์ผู้รักษาสอบถามถึงชิ้นส่วนของนิ้วเท้าเพื่อจะต่อให้ แต่ไม่มีคนนำมาด้วย ญาติ น.ส.สุวรรณา จึงกลับไปที่เกิดเหตุเพื่อช่วยกันค้นหาแต่ก็ไม่พบ  พ.ต.ท.สมบัติกล่าวอีกว่า ตำรวจได้แจ้งข้อหาทั้งคู่ว่า ก่อการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน แต่เนื่องจากทั้งคู่มีภูมิลำเนาเดียวกัน และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจึงไม่น่าจะหลบหนี ทางตำรวจจึงไม่ได้ควบคุมตัวทั้งคู่ไว้ แต่จะรอให้ทั้งคู่พักรักษาอาการบาดเจ็บให้หายก่อน จึงจะสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไ