ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.ท.ยงยุทธ ทองเต็ม พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.คันนายาว
รับแจ้งพบรถขนเงินของบริษัท สยามแอดมินนิสเทรทีฟเมนเนจเมนต์ จำกัด หรือแซมโก้ ที่ถูกคนร้ายปล้นนำมาทิ้งไว้ใกล้ทางเข้าหมู่บ้านปัญญา รามอินทรา โซนพี 5 ถนนปัญญา-รามอินทรา แขวงและเขตคลองสามวา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศส.บช.น. พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.อ.อาคม จันทลาช ผกก.สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุพบรถขนเงินยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ สีขาวคาดเขียว ทะเบียน ตธ 5653 กรุงเทพมหานคร รหัสข้างรถ ซี 242 จอดอยู่ในลักษณะประตูทั้ง 2 ข้างเปิดทิ้งไว้
มีนายกราณชัย อุตมาตย์ อายุ 28 ปี พนักงานขับรถของบริษัท และนายถาวร มงคลนำ อายุ 30 ปี หัวหน้าประจำรถ ถูกคนร้ายใส่กุญแจมือไพล่หลังขังไว้ด้านแค็บเบาะหลังคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยเหลือและนำตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ส่วนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาเปิดประตูตู้เก็บเงินบริเวณด้านหลังพบเงินเหลือเพียง 1 ล้านกว่าบาท หายไปจำนวน 17 ล้านบาทเศษ
สอบสวนนายกราณชัยให้การด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่หายตื่นเต้นได้ความว่า
ขับรถขนเงินจำนวน 21.8 ล้านบาท ออกมาจากบริษัทในซอยรามคำแหง 21 เพื่อนำเงินไปใส่ในตู้เอทีเอ็มทั่วกรุง 8 จุด เริ่มจุดแรกบริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซอยพหลโยธิน 22 เป็นจำนวน 2.35 ล้านบาท เมื่อเสร็จเรียบร้อย และกำลังจะนำเงินไปใส่ตู้ เอทีเอ็มจุดที่ 2 เกิดปวดท้องกะทันหัน จึงแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันปิโตรนาส สาขาเสนานิคม ซอยพหลโยธิน 32 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. พอกลับมาขึ้นรถปรากฏว่า มีคนร้ายสวมหมวกไหมพรม 2 คน ใช้ปืนจี้ให้ทั้งคู่ เข้าไปนั่งตรงแค็บหลังเบาะคนขับแล้วใส่กุญแจมือจับไพล่หลังบังคับให้ก้มหน้าหมอบ โดยคนร้ายได้ขับรถไปจอดย่านวังหิน ขู่นายกราณชัยให้ส่งกุญแจไขประตูตู้เก็บเงินมาให้ จากนั้นคนร้ายได้ลงไปไขประตูตู้เก็บเงิน แต่ ไม่สามารถเปิดได้ เพราะต้องใช้กุญแจของพนักงาน 2 คนไขพร้อมกันเลยมาบังคับเอากุญแจจากนายถาวรไปอีกดอกเปิดประตูขนกระเป๋าใส่กล่องเงินไปใส่รถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนที่ขับตามมา ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 คนจะกลับมาขึ้นรถบริษัทขับไปจอดทิ้งถนนปัญญา-รามอินทรา แล้วพากันวิ่งหลบหนีไปท่ามกลางความมืด
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.คันนายาวได้กระจายกำลังออกค้นหา
กระทั่งพบชายต้องสงสัย 2 คน ท่าทางพิรุธกึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่หน้าหมู่บ้าน โซนพี 1 ห่างจากที่พบรถขนเงินประมาณ 3 กม. จึงเชิญตัวไปโรงพัก ทราบชื่อภายหลังนายบัณฑิต ถึงนอก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 11 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพนักงานของบริษัทแซมโก้ และ พลฯอุทิศ จันทร์สำเภา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328/175 ถนนอำนวยสงคราม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. นักกีฬาวอลเลย์บอลของทหารสังกัด มทบ.11 มี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต. กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.และชุดสืบสวนสอบสวนแยกกันสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 5 ชั่วโมง