ตร.ย้ำนักหนาใช้มาตรฐานเดียวดำเนินคดี ทักษิณ

ตร.ย้ำนักหนาใช้มาตรฐานเดียวดำเนินคดี ทักษิณ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 18:18 น.

หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทักษิณ หมิ่นเบื้องสูง ยันใช้มาตรฐานการดำเนินคดีเดียวกันกับที่แกนนำพันธมิตรฯ ถูกดำเนินคดี ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งหากเข้าองค์ประกอบความผิดก็ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายเช่นกัน ส่วนจะ เรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะเป็นผู้ตัดสินใจ

วันนี้ (3 พ.ค.) พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.ก. หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีที่นายการุณ ฉายแก้ว แจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลังกล่าวในงานนายกฯ พบแท็กซี่ และรายการนายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน ซึ่งมีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ล่าสุด วานนี้ (2 พ.ค.) นายการุณได้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยนายการุณได้อ้างพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากหนังสือพิมพ์ คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกอากาศทางรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน และกับคำพูดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในงานนายกฯ พบแท็กซี่ ที่จัดขึ้นที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานเอกสาร และพยานบุคคลตามที่นายการุณกล่าวอ้าง เพื่อประมวลว่ามีการกล่าวหาในข้อหาใดบ้าง และจำนวนกี่ประเด็น

พล.ต.ต.เอกรัตน์ ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในมาตรฐานเดียวกับที่ได้ดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่วนจะมีการเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาให้ปากคำหรือมารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานว่าเข้าองค์ประกอบความผิดหรือไม่ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีหมิ่นเบื้องสูง และหลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสร็จสิ้นแล้วจะต้องเสนอคณะกรรมการ ระดับกองบัญชาการ ซึ่งจะมี พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก.เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้ หากเข้าองค์ประกอบความผิดก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น

ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่เหตุที่คดีนี้ล่าช้าเพราะว่าผู้กล่าวหามายื่นเรื่องผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแทงเรื่องมาที่ บช.ก. พร้อมทั้งตั้งผมเป็นประธานการสอบสวนนั้นล่าช้า ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติ พล.ต.ต.เอกรัตน์ย้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯ โดยเฉพาะนายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามได้ออกหมายเรียกนายสนธิถึง 2 ครั้ง จากนั้นได้ไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนตัวผู้กล่าวหาไปเป็นตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินคดีเองอีกด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์