เฒ่า 63 ใจเด็ด ยิงคนร้ายเจ็บ 2
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 พ.ค. ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกไล่ยิงบริเวณสวนยางพารา หมู่ 8 บ้านไอร์ปาเซ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผกก. พ.ต.ต.สุรเดช มาสินธพันธ์ สวป. นำกำลังตำรวจและทหารรุดไปตรวจสอบ
พบนายพุฒ จันทร์นุเคราะห์ อายุ 63 ปี เจ้าของสวนยางพาราและสวนผลไม้ ยืนถือปืน .38 รออยู่กับนาง จวบ จันทร์นุเคราะห์ อายุ 60 ปี ภรรยา ด้วยสีหน้าที่ยัง ไม่หายจากความตื่นเต้น ทั้งนี้ นายพุฒระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ออกมาดูคนงานกรีดยางกับภรรยา ระหว่างที่เดินอยู่ริมถนนมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถ จยย.ฮอนด้า จำเลขทะเบียน ไม่ได้ วิ่งสวนทางมา คนซ้อนท้ายไม่พูดพร่ำทำเพลง ชักปืน ออกมาเหนี่ยวไกใส่ตน 1 นัด แต่กระสุนขัดลำกล้อง ตน จึงชักปืนที่พกติดตัวออกมายิงใส่ไป 3 นัด กระสุนถูก 2 คนร้าย บาดเจ็บรีบเร่งเครื่องรถ จยย.บึ่งหนีไปทันที เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่พบหยดเลือดของคนร้ายหยดเป็นทางยาวไปตามถนน จึงออกสะกดรอยตามไปถึงบริเวณชายป่าหมู่บ้านมะแกง หมู่ 1 ต.บองอ อ.ระแงะ ห่างจากจุดเกิด เหตุประมาณ 5 กม. ก่อนที่ร่องรอยหยดเลือดจะหายไป คาดว่า น่าจะมีพรรคพวกที่เหลือขับรถกระบะมารอรับพาหลบหนีไปอีกทอดหนึ่ง จึงกระจายกำลังออกค้นหาในหมู่บ้านดังกล่าว
จนกระทั่งเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน กำลังตำรวจและทหารได้จู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 81/1 หมู่ 1 บ้านมะแกง ต.บองอ พบกลุ่มคนร้าย 5 คน หลบซ่อนตัวอยู่ โดย 2 ใน 5 ถูกกระสุนปืนบาดเจ็บ โดยมีพวกที่เหลืออีก 3 คน กำลังช่วยทำบาดแผลให้ ทราบชื่อต่อมาคือ 1. นายอาราวี วาโซ๊ะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221/7 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ถูกยิงที่แขนซ้าย 1 นัด 2. นาย บือรี บือราเฮง อายุ 24 ปี ถูกยิงเข้าชายโครงซ้ายและกลางหลังรวม 2 นัด อาการสาหัส จึงส่งไปรักษาที่ รพ. นราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีกำลังตำรวจและทหารไปเฝ้า เพราะเกรงว่าอาจจะหลบหนี 3. นายวอมันติ ดะแซ อายุ 23 ปี เจ้าของบ้าน 4. นายสะมะแอ ปามูบิง อายุ 30 ปี และ 5. นายซุลกิฟลิ ยูโซ๊ะ อายุ 21 ปี
จากการตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว พบเสื้อผ้าชุดลายพรางเปื้อนเลือด 2 ชุด พร้อมรองเท้าบูต 2 คู่ รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน กกน 772 นราธิวาส พาหนะที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 คัน รวมทั้งเอกสารเป็นหนังสือปลุกระดม เรื่องแบ่งแยกดินแดนเป็นภาษายาวีอีกหลายเล่ม ส่วนอาวุธ ปืนที่ใช้ก่อเหตุยังไม่พบ หลังจากให้ทหารเสนารักษ์ช่วยทำแผลให้กับนายอาราวีแล้วก็คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งไป สภ.อ.ระแงะ แยกสอบปากคำคนละห้อง โดย พล.ต.ท. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ. 9 เดินทางมาสอบปากคำกลุ่ม ผู้ต้องหาด้วยตัวเอง
เบื้องต้นนายอาราวีให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้ปืนยิงนายพุฒจริงเพื่อสร้างผลงานให้กับกลุ่มของตัวเองที่มีนายสะมะแอเป็นหัวโจก โดยนายบือรีทำหน้าที่เป็นคน ขี่รถ จยย.ให้ แต่กระสุนเกิดขัดลำกล้องทำให้นายพุฒ ตั้งตัวได้ชักปืนยิงสวนถูกตนกับนายบือรีบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 3 คน คือนายวอมันติ นายสะมะแอ และนายซุลกิฟลิยังไม่ยอมให้ปากคำเพิ่มเติม จึงส่งตัวทั้ง 4 คน ส่งไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (ศปก.สน.ยะลา) ตาม พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป
อีกรายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.10 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.หมัดอุเส็น เหมาะสนิ ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงโก-ลกจ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงบาดเจ็บข้างสนามเทนนิส ใกล้โรงเรียนสุไหงโก-ลก ถนนทรายทอง 3 จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เติม อินทะสะระ ผกก. รุดไปตรวจสอบ พบรถ จยย.ซูซูกิ ทะเบียน กมบ 247 นราธิวาส ล้มอยู่ข้างทาง มีปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำส่ง รพ. สุไหงโก-ลกไปก่อนหน้าแล้ว
ทราบชื่อต่อมาคือนายโลกกือมัน สาแม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 5 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ถูกยิงที่กกหูขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนางอาบียาห์ กระเสาะ อายุ 42 ปี ภรรยา ถูกยิงเข้าดั้งจมูก 1 นัด กระสุนฝังในอาการสาหัส ต้องส่งต่อไปผ่าตัดที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายโลกกือมันพร้อมภรรยาเดินทางไปยื่นคำร้องขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นนายซูบัยดี ที่ อ.สุไหงโก-ลก ขากลับขณะขี่รถ จยย.ผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนใช้รถกระบะเป็นพาหนะไล่แซงประกบใช้ปืนยิงใส่รวม 2 นัด ถูกทั้งคู่กระเด็นตกจากรถ นายโลกกือมัน หรือนายซูบัยดีเสียชีวิต ส่วนนางอาบียาห์ บาดเจ็บดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือโจรใต้เช่นกัน
ส่วนที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 2 พ.ค. พ.ต.ท.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผกก.สส.สภ.อ.รามัน รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านกายูบอเกาะหมู่ 6 ต.ตายูบอเกาะ อ.รามัน จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพนายมานะ มะลาโซ อายุ 45 ปี เป็น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.อาซ่อง อ.รามัน แต่งชุดข้าราชการเต็มยศ นอนตายจมกองเลือดอยู่ข้างรถ จยย.ฮอนด้า ทะเบียนกรบ 30 ยะลา มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดบริเวณลำตัวและชายโครงขวารวม 6 นัด สอบสวนทราบว่าผู้ตายเพิ่งเสร็จจากร่วมประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในที่ว่าการอำเภอรามันกำลังจะกลับบ้าน ระหว่างมีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ไม่ทราบทะเบียนไล่ตามประกบยิงร่วงตกจากรถ จยย. มือปืนที่นั่งซ้อนท้ายเดินตามเข้าไปจ่อยิงซ้ำอีกหลายนัดจนกระทั่งแน่ใจว่าเหยื่อตายสนิทจึงซ้อนท้ายรถ จยย.ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนีไปทาง อ.รามัน เชื่อเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์รายวัน
ขณะเดียวกันมีรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคงแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษในช่วงก่อนวันที่ 16 พ.ค. ที่จะถึงนี้ เพราะได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแกนนำกลุ่มโจรใต้ของนายมะแซ อูเซ็ง โดยแกนนำคนดังกล่าวเป็นอดีตสมาชิก อบต.คนหนึ่งใน จ.นราธิวาส เพิ่งเดินทางกลับไปพบนายมะแซ อูเซ็ง ในประเทศเพื่อนบ้าน ได้เรียกประชุมระดับหัวหน้าหน่วยคอมมานโดในแต่ละพื้นที่ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เพื่อเตรียมก่อเหตุรุนแรงครั้งใหม่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมกัน โดยมีศูนย์กลางสั่งงานอยู่ใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
นอกจากนี้ยังมีรายงานเรื่องกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดในโรงเรียนบ้านลาแล หมู่ 1 ต.ปูโย๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มี 4 คน ระดับแกนนำเป็นถึงอุสตาซในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของตำบลปูโย๊ะ ส่วนอีก 3 คนก็เป็นคนในเครือญาติและคนใน หมู่บ้านเดียวกัน ขณะนี้ทาง ศปก.ตร.สน.ยะลา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป