ตร.ฟิตจัด! ประชุมคดี ทักษิณ หมิ่นเบื้องสูง
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 11:51 น.
รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคดี ทักษิณ หมิ่นเบื้องสูง เพื่อตรวจสอบรายละเอียดข้อกฎหมาย และความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐาน
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้เรียกประชุมชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อทำการตรวจดูรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานตามที่ได้สั่งการไปในการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นมีรายงานว่า การประชุมในวันนี้ชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนจะตรวจดูขั้นตอนของการดำเนินการตามกฎหมายว่าจะมีการเรียกบุคคลใดที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายการุณ ฉายแก้ว ผู้กล่าวโทษไปแล้ว
ทั้งนี้ สำหรับคดีดังกล่าว นายการุณ ฉายแก้ว ได้มีหนังสือกล่าวโทษ ลงวันที่ 13, 20 และ 27 มีนาคม 2549 ต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กับพวก ในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ และความมั่นคงภายในของรัฐ กรณีคำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในงาน นายกฯ พบแท็กซี่ ณ อินเดอร์สเตเดียมหัวหมาก, ในรายการ นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 การประกาศยุบสภาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวก, การละเมิดหรือตีตนเทียบเท่าพระเจ้าอยู่หัว ที่สามารถพิจารณาได้จากแผ่นป้าย-กระดาษคาดศีรษะที่มีข้อความ เรารักทักษิณ ที่ได้นำมาแจกประชาชนผู้ที่สนับสนุน และการนำธงเฉลิมพระเกียรติที่ได้มีข้อความว่า ทรงพระเจริญ มาแจกให้กับประชาชนคอยโบกต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ โดยนายการุณ ฉายแก้ว เห็นว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาที่ไม่อยู่ในเขตการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงขอให้ดำเนินคดีนั้น
และเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มีคำสั่งแต่ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และ พ.ต.อ.ฉลองชัย บุรีรัตน์ รอง ผบก.ป. เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งหมดรวม 10 นาย พร้อมกับกำชับชุดสืบสวนสอบสวนว่าเนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นการกล่าวโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญา แต่เนื่องจากการกระทำตามที่นายการุณ ฉายแก้ว กล่าวอ้างเป็นการกระทำที่เกิดในหลายท้องที่ เป็นคดีความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ และความมั่นคงภายในประเทศ เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ได้ผลสมความมุ่งหมายของราชการ
โดยให้เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ มีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทำการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิด หรือมีความผิดอื่นที่เกี่ยวพันกันก็ให้มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดนั้นๆ ด้วย แล้วรายการผลให้ทราบทุกระยะ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ในคดีที่มีผู้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง ให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไปทำบุญประเทศภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ชุดพนักงานสอบสวนก็มีการประชุม ปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับการดำเนินคดี และสุดท้าย ได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ โดยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งต่อมา พนักงานอัยการก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน