จากกรณี ร.ต.ท.วัชรินทร์ รักประทุม พนักงานสอบสวน (สบ 1) ช่วยราชการฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่ขัน ก่อเหตุชักปืนกระหน่ำยิง พ.ต.ท.วีรากร ไวยวุฒิ รอง ผกก.ป. สน.บางยี่ขัน นายเวรเก่า พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น.
เสียชีวิตหน้าโรงพักเมื่อดึกวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีไป หลังทั้งคู่เกิดความขัดแย้งสะสมกันมานานกระทั่งนายตำรวจหนุ่มรุ่นน้องระงับอารมณ์ไม่อยู่กลายเป็นโศกนาฏกรรมเลือดของวงการตำรวจ โดย พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ได้กำชับให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามล่าตัว ร.ต.ท.วัชรินทร์มาดำเนินคดีให้ได้ ในที่สุดทีมสืบสวนนครบาลสามารถล็อกตัวร้อย ตำรวจโทปืนดุรายนี้ได้แล้ว หลังจากหนีคดีฆ่ารอง ผกก.ไปกบดานชายแดนจังหวัดภาคใต้
รวบรตท.มือฆ่าพตท. กบดานชายแดนใต้
โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.จร. ช่วยราชการงานสืบสวน บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิษณุ พ่วงพร้อม สว.กก.สส.บก.น.7 นำกำลังประสานข้อมูลกับ พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช
รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.จ.ภ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ. จ.นราธิวาส และ พ.ต.ท.อาภากร ลบบำรุง ผบ.ร้อย (สบ 2) กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.นราธิวาส จู่โจมเข้าจับกุม ร.ต.ท.วัชรินทร์ รักประทุม อายุ 35 ปี ขณะหลบอยู่กับญาติแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย ริมแม่น้ำโกลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำเอาเจ้าตัวหน้าซีดเผือดเมื่อเจอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลตามไปรวบตัวถึงที่นั่น
ต่อมา ชุดสืบสวน บก.น.7 ได้ควบคุมตัว ร.ต.ท. วัชรินทร์ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ นำตัวเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 ร่วมสอบปากคำก่อนเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีเพื่อน นรต.43 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.วีรากร ไวยวุฒิ ที่ทราบข่าวไปร่วมรับฟังจำนวนหลายนาย ร.ต.ท.วัชรินทร์เลยนั่งก้มหน้าเครียด ไม่ยอมตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ผมไม่ขอตอบใดๆทั้งสิ้น ผมยอมรับผิด” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปควบคุมไว้ที่ สน.บางยี่ขัน เพื่อรอทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป
สำหรับเบื้องหลังการตามจับ ร.ต.ท.วัชรินทร์ ที่หนีคดีฆ่า พ.ต.ท.นานเดือนเศษในครั้งนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.เป็นหัวหน้าชุดควบคุมสั่งการ
มี พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.จร.ช่วยราชการงานสืบสวน บช.น. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส. บก.น.7 คุมทีมปฏิบัติแกะรอยจนได้ข้อมูลว่า มีผู้พา ร.ต.ท.วัชรินทร์หนีข้ามฝั่งชายแดนไทยไปอยู่บ้านญาติที่รอยต่อประเทศมาเลเซีย พ.ต.อ.สุวัฒน์จึงรายงาน ผบช.น. ให้ประสานทางเจ้าหน้าที่ ตม.ของประเทศมาเลเซีย ขออนุญาตนำชุดสืบสวน บก.น.7 เข้าไปตรวจสอบข้อมูลนานกว่า 7 วัน จนทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาได้หลบมากบดานอยู่จริงก่อนเข้าจับกุม ร.ต.ท.วัชรินทร์ระบายความในใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมระหว่างเดินทางเข้า กทม.ว่า ขัดแย้งกับ พ.ต.ท.วีรากรมานาน แต่ไม่คิดโต้ตอบเพราะเห็นเป็นผู้บังคับบัญชา กระทั่งครั้งสุดท้ายโดนตำหนิเรื่องการทำงาน พ.ต.ท.วีรากรพูดจาเหยียดหยามดูถูก ทำให้ ตนไม่ค่อยพอใจ คืนเกิดเหตุกลับเข้าโรงพักตามปกติ ไม่มีเจตนาจะหาเรื่อง แต่ พ.ต.ท.วีรากรเดินเข้ามาหาจนเกิดปากเสียงกันหน้าโรงพัก “คำพูดสุดท้ายที่ผมทนไม่ได้ คือพี่เขาด่าผม หาว่าผมเป็นร้อยตำรวจโทกิ๊กก๊อก มันทำให้ผมโกรธมากเลยตัดสินใจชักปืนยิง”