เมียถูกข่มขืน แค้นยิง3ศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 ธ.ค.

ร.ต.ท.ฐากูร มหามิตร ร้อยเวร สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 155 ห้วยระหงษ์ หมู่ 7 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ไทยแหลมทอง สว.หน. สภ.บ้านกลาง นพ.วรงค์วุฒิ ปิ่นอนงค์ แพทย์เวร รพ.หล่มสัก หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพบศพนายสุดใจ หมื่นกึ้น อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 172 หมู่ 7 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก นอนตายอยู่ข้างกองไฟติดกับแคร่ไม้ไผ่ ลักษณะศพสวมเสื้อยืดสีฟ้า สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีเทา สวมถุงมือสีเทา ถุงเท้าสีน้ำเงิน สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าสีข้างด้านซ้าย 1 นัด หน้าอก 1 นัด ข้างศพพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 2 ปลอก 


ห่างจากบ้านออกไปราว 100 เมตร บนถนนคอนกรีตทางเข้าหมู่บ้าน

พบศพนายสมเพียร คำดี อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ 7 ต.ปากช่อง ลักษณะศพนอนหงาย สวมใส่เสื้อกางเกงยีน ศีรษะถูกยิงด้วยปืนลูกซองหายไปทั้งแถบ โดยมีปืนลูกซองยาววางพาดอยู่บนขาซ้าย ปลอก กระสุนคาลำกล้อง 1 ปลอก ตกที่พื้น 1 ปลอก ในกระเป๋ากางเกงพบกระสุนปืนลูกซอง 4 นัด จดหมายลาตาย 1 ฉบับ บริเวณพื้นถนนยังพบรองเท้าแตะของเด็กตกอยู่ 1 คู่ และกองเลือดหลายกอง นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เพื่อนบ้านช่วยเหลือนำส่ง รพ.หล่มสัก ก่อนหน้าแล้ว และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ทราบชื่อ ด.ญ. อรุณี คำดี อายุ 7 ขวบ ลูกสาวนายสมเพียร สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันเข้าบริเวณลำตัวด้านขวา 1 นัด ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมนำศพส่ง รพ.หล่มสัก เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง


สอบปากคำนางลักษณ์ นาคำ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า

นายสุดใจเป็นเพื่อนบ้านมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เพิ่งเดินทางกลับจากทำงานที่ กทม. ประมาณ 1 อาทิตย์ ก่อนเกิดเหตุมานั่งผิงไฟที่หน้าบ้านเนื่องจากอากาศหนาว ระหว่างนั้นนายสมเพียรมือปืนเดินจูง ด.ญ.อรุณี มืออีกข้างถือปืนลูกซองยาวตรงเข้าไปหานายสุดใจ พร้อมกับยกปืนเล็งไปที่นายสุดใจหมายจะยิง นายสุดใจเห็นท่าไม่ดีวิ่งเข้ามาหลบด้านหลังตน ใช้มือดึงตัวไว้ใช้เป็นเกราะกำบัง ทำให้นายสมเพียร ยิงไม่ถนัด ตะโกนสั่งให้ตนหลบไป พร้อมกับเดินเข้าประชิดตัวใช้ปืนจ่อยิงนายสุดใจเข้าสีข้างล้มลง ก่อนจะยิงซ้ำบริเวณหน้าอกอีก 1 นัด เสียชีวิต จากนั้นจูงมือ ด.ญ.อรุณี ลูกสาวที่อยู่ในอาการตื่นตกใจเดินไปที่ถนนหน้าบ้าน ใช้ปืนจ่อยิงลูกสาว 1 นัดล้มลง ก่อนที่นายสมเพียรจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงปลายคางตัวเองกระสุนทะลุศีรษะล้มลงเสียชีวิต ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของเพื่อนบ้านรีบช่วยเหลือนำร่าง ด.ญ.อรุณีส่ง รพ.พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจทราบ


ขณะเดียวกัน ตำรวจนำจดหมายที่พบในตัวนายสมเพียรมาตรวจสอบมีข้อความในทำนองระบายความแค้นว่า

ช่วงที่ถูกจับติดคุกในข้อหาลักลอบตัดไม้กฤษณาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ นายสุดใจใช้กำลังบังคับข่มขืนภรรยา (ขอสงวนชื่อนามสกุล) มานานร่วม 3 ปี และยังข่มขู่บังคับเอาเงินจากภรรยาหลายครั้ง ทำให้ภรรยาต้องอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน เพราะไม่กล้าบอกใครกลัวความอับอาย ในที่สุดต้องหนีไปหลบอยู่กับญาติที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสานและมีสามีใหม่ หลังออกจากคุกตามหาภรรยาจนพบและทราบความจริง พยายามอ้อนวอนภรรยาให้กลับไปอยู่กินเหมือนเดิม แต่ถูกปฏิเสธ อ้างว่าเป็นห่วงสามีใหม่ที่อยู่กินกันมาระยะหนึ่งแล้ว ที่สำคัญนายสุดใจยังวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านกลัวจะไม่ปลอดภัย ทำให้ต้องก้มหน้าเลี้ยงลูกสาวคนเดียว และเก็บความแค้นมาตลอด คิดว่าสักวันจะต้องฆ่านายสุดใจระบายแค้นให้ได้ เหตุที่ต้องฆ่าลูกสาวด้วย เพราะรักมากต้องการเอาไปอยู่ด้วยกัน จากคำให้การของพยานรวมทั้งหลักฐานในที่เกิดเหตุ ตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่า นายสมเพียรคงเกิดความแค้นที่นายสุดใจข่มขืนภรรยาจนครอบครัวแตกแยก จึงก่อเหตุบุกยิงนายสุดใจระบายแค้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์