หลังให้ปากคำตำรวจแล้ว นางสุจิตรเดินออกไปดูรถปิกอัพที่จอดอยู่ในโรงพัก
เมื่อเห็นสภาพรถถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ยืนยันว่าเป็นรถที่สามีเบิกจากโรงงานน้ำตาลมาใช้ พร้อมขอให้ตำรวจช่วยติดตามหาตัวสามีให้ด้วย ยังมีความหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่เพราะยังไม่พบศพ และจะรออยู่ที่บ้านญาติใน อ.นครชัยศรี จนกว่าจะทราบ เบาะแสของสามีว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนนางทองพูน เทียนคำ พี่สาว ผจก.โรงน้ำตาลที่หายตัวลึกลับ กล่าวว่า น้องชายเป็นคนทำมาหากินไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร แต่งงานอยู่กินกับนางสุจิตรมาร่วม 10 ปี ไม่เคยมีปัญหากับบรรดาลูกไร่ มีแต่คนรักและเคารพนับถือ ไม่เคยโกงใคร โดยเฉพาะเรื่องเงินเกี้ยวที่ทางโรงงานจ่ายให้กับลูกไร่ก่อน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะสั่งจ่ายเป็นเช็คในนามของลูกไร่ ที่นายอุดร ไปติดต่อโดยตรง จึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้ถูกอุ้มตัวหายลึกลับ
ด้าน พ.ต.ท.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รอง ผกก.สส. สภ.นครชัยศรี เผยว่า
ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองวิทยาการภาค 7 มาเก็บรอยนิ้วมือแฝงและตัวอย่างคราบเลือดภายในรถนำไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับลูก ว่าเป็นเลือดของนายอุดรหรือไม่ ส่วนการตามหาตัวนายอุดร ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สุระพรรณ นาทวรทัต สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวนออกหาพยานใกล้ที่เกิดเหตุซึ่งอาจจะเห็นคนร้ายนำรถมาจอดไว้ เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดี พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 เผยว่า ได้เรียกชุดสืบสวนภาค 7 สืบสวน ภ.จ.นครปฐม สืบสวน สภ.นครชัยศรี และกองปราบปราม เข้าร่วมสืบหาตัวนายอุดรให้พบ พร้อมทั้งเชิญญาติพี่น้อง รวมทั้งผู้บริหารโรงงานน้ำตาลมาสอบสวนหาสาเหตุในเบื้องต้น ขณะนี้ได้เร่งผลการตรวจดีเอ็นเอว่าคราบเลือดที่พบในรถเป็นเลือดของนายอุดรหรือไม่ หากเป็นเลือดของนายอุดรจริง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว เพราะเลือดที่ติดอยู่ภายในรถมีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จากการตรวจพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียดแล้วไม่พบศพ จึงคาดว่าคนร้ายอาจจะอุ้มฆ่านำศพไปทิ้งที่อื่นและแยกเอารถมาจอดทิ้งในเขตนครปฐม ได้สั่งการไปยังทุกโรงพักใน 8 จังหวัดพื้นที่ภาค 7 แล้ว หากมีการพบศพให้แจ้งให้ทราบด่วน
วันเดียวกัน พล.ต.ต.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ. ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ. พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ สว.ปพ.บก.ป. ประสานงานกับตำรวจ สภ.นครชัยศรี
เพื่อเข้าร่วมคลี่คลายคดีการหายตัวไปของนายอุดร เทียนคำ เบื้องต้นได้ข้อมูลว่า นายอุดรเดินทางออกจากโรงงานน้ำตาลใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. แต่ ไม่มีใครทราบว่าไปไหน หลังจากนั้นหายตัวไปโดยไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ส่วนการสอบปากคำญาติทราบว่า ทรัพย์สินที่ติดตัวไปนั้นมีจำนวนไม่มาก ไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกอุ้มตัวไป คดีนี้ทางกองปราบปรามร่วมกับตำรวจเจ้าของพื้นที่กำลังตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งอื่นๆ ทั้งเรื่องส่วนตัวและปัญหาในที่ทำงาน
ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.ต.เชิดศักดิ์ ประกอบสุข สารวัตรเวร สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
รับแจ้งเหตุพบศพลอยอยู่กลางคลองใต้สะพานกองดินติดแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนพระสมุทรเจดีย์-ป้อมพระจุลจอมเกล้า หมู่ 5 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ นำกำลังไปตรวจสอบ พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างท้วม ผิวดำแดง ตัดผมรองทรงสั้นใส่เยล สูงประมาณ 165 ซม. นิ้วนางซ้ายสวมแหวนทองคำหัวพลอยสีเหลืองอ่อน สวมเสื้อยืดแขนกุดสีขาว ด้านหลังสกรีนตัวอักษรว่าพาณิชย์การประกันภัย นุ่งกางเกงยีนลีวายส์สีน้ำเงิน คาดเข็มขัดหนังสีดำหัวชุบโครเมี่ยม สวมถุงเท้าสีส้ม ไม่สวมรองเท้า สภาพศพถูกของแข็งทุบดั้งจมูกยุบ ขอบตาเขียวช้ำ และถูกจ่อยิงที่ขมับขวา ไหล่ขวา หน้าท้อง และกลางหลัง รวม 4 นัด ในตัวไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน พบเพียงมีเงินเปื้อนเลือดอยู่ในกระเป๋ากางกาง 840 บาท คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. ส่วนบริเวณเชิงสะพานมีกองเลือดแห้งกรังกระจายเป็นวงกว้าง และรอยลากศพลงไปทิ้งใต้สะพาน จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.สุวิทย์ ยอดรัก ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ กล่าวว่า
จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน คาดว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี น่าจะบีบบังคับให้บอกอะไรบางอย่าง แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงบังคับพาขึ้นรถปิกอัพมายังที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นที่เปลี่ยวไม่มีไฟส่องสว่าง แล้วรุมซ้อมจนสะบักสะบอมก่อนจ่อยิงทิ้งจนเสียชีวิตบนรถและลากศพไปทิ้งใต้สะพานดังกล่าว จากนั้นตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ได้ส่งภาพถ่ายพร้อมทั้งแจ้งรูปพรรณสัณฐานและการแต่งกายของผู้ตายไปยัง สภ.นครชัยศรี เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะเป็นศพนายอุดร เทียนคำ ผจก.โรงน้ำตาลที่ถูกอุ้มตัวหายไป และพบรถปิกอัพไปจอดทิ้งในท้องที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยตำรวจได้แจ้งให้นางสมจิตรมาดูภาพถ่ายผู้ตาย ทันทีที่เห็นศพในภาพถ่ายก็ยืนยันว่าคือนายอุดร สามีที่หายตัวไปแน่นอน เพราะจำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายได้ โดยเฉพาะเสื้อยืดสกรีนคำว่าพาณิชย์การประกันภัย รวมทั้งแหวนหัวพลอยที่สวมใส่อยู่ ส่วนประเด็นฆาตกรรมนั้นไม่ทราบ คงต้องให้ตำรวจติดตามผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี