หนุ่มการไฟ ฟ้าส่วนภูมิภาคปากน้ำโพเครียด
ระแวงเมียไปมีกิ๊ก ใช้มีดปลายแหลมยาว 10 นิ้ว จี้คอเป็นตัวประกันกักขังไว้ในบ้าน พร้อมกับลงมือทุบตี แถมตะโกนด่าให้เรียกกิ๊กหนุ่มที่เป็นสารวัตรมาเจรจากัน กำลังตร.นครสวรรค์ล้อมอยู่นานกว่าจะบุกเข้าชาร์จช่วยตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะพาส่งร.พ.รักษาแผล
เมื่อเวลา 15.20 น.วันที่ 4 ธ.ค.
พ.ต.ท.กิตติภพ ธวัช ชัยวิสุทธิ์ สวญ.สภ.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ รับแจ้งมีเหตุสามีใช้อาวุธมีดจี้ภรรยาไว้ในบ้าน ที่หมู่บ้านริมปิง ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นและรีบรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.ต.สมบัติ วิเศษสิงห์ สวป.สภ.ปากน้ำโพ ตำรวจชุดสายตรวจ สายสืบหลายสิบนาย และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวน์เฮาส์หลังเดี่ยวชั้นเดียว ล้อมรั้วปูน เลขที่ 117/53 หมู่ 12 ต.บางม่วง อ.เมือง จ. นครสวรรค์ บริเวณหน้าบ้านมีเสาวิทยุสมัครเล่นขนาดใหญ่ ทราบภายหลังว่าเป็นบ้านของนายสุธี จันทร์อู่ อายุ 50 ปี กับนางพัชรินทร์ หรือบี จันทร์อู่ อายุ 42 ปี
พิษหึงหวง หนุ่มกฟภ. มีดจ่อเมีย
จากการตรวจสอบพบว่า
ภายในห้องครัวด้านหลังบ้าน นายสุธี ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าระดับ 4 สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นครสวรรค์ กำลังใช้อาวุธมีดทำครัวปลายแหลมยาวประมาณ 10 นิ้ว จี้คอของนางพัชรินทร์ โดยนายสุธีนั่งคร่อมอยู่ด้านบนตัวนางพัชรินทร์ พร้อมทั้งลงมือทุบตีนางพัชรินทร์ และพูดไปด้วยว่า ให้นางพัชรินทร์ไปตามสารวัตรมาหา เพื่อพูดจายืนยันต่อหน้าว่าสารวัตรมีปัญหาความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางพัชรินทร์
โดยนายสุธีอ้างว่า
สารวัตรเป็นกิ๊กกับนางพัชรินทร์ นางพัชรินทร์กลัวตายจึงไม่กล้าโต้เถียง นายสุธีตะโกนว่าให้ไปตามสารวัตรมาแล้วจะเอาสื่อมวลชนเป็นพยาน ระหว่างเกิดเหตุลูกชายของทั้งคู่นั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน ขอให้ช่วยแม่ออกมา ซึ่งปัญหาคาดว่าน่าจะมาจากการที่นางพัชรินทร์เล่นวิทยุสมัครเล่นแล้วพูดคุยสนิทสนมกับสารวัตร จนนายสุธีเกิดความระแวงหึงหวง โดยนายสุธีอ้างว่าตนเองเคยร้องเรียนกับพล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ มาแล้วในเรื่องนี้
พ.ต.ท.กิตติภพปีนขึ้นไปบนคอมเพรสเซอร์แอร์ด้านหลังบ้านเพื่อเจรจากับนายสุธี ใช้เวลาเจรจานานกว่าชั่วโมง โดยถ่วงเวลาและหาทางช่วยเหลือนางพัชรินทร์ หลังจากนั้นพ.ต.ท.กิตติภพกลับมาวางแผนกับชุดทำงานเพื่อจะบุกเข้าชาร์จช่วยเหยื่ออีกทาง
ต่อมาเวลา 16.30 น. พ.ต.ท.กิตติภพ พร้อมด้วยพ.ต.ต.สมบัติ วิเศษสิงห์
นำเจ้าหน้าที่บุกเข้าชาร์จ โดยมีคนเจรจาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนายสุธี แล้วอีกชุดหนึ่งบุกเข้าทางด้านหน้าบ้านในขณะที่นายสุธีเผลอ และเข้าปลดอาวุธนายสุธีไว้ได้ หลังจากนั้นจึงรีบนำตัวนางพัชรินทร์ส่งโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์เพื่อรักษา เพราะตรวจพบว่ามีบาดแผลที่ศีรษะคล้ายบาดแผลจากของมีคม ส่วนนายสุธีซึ่งอยู่ในสภาพเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปที่ สภ.ปากน้ำโพ เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป