ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 3 ธ.ค.
พ.ต.ท.ประเทือง สุทธการี สารวัตรเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านวรรณาคาราโอเกะ ริมถนนสายโพธาราม-เจ็ดเสมียน หมู่ 4 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม มีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ. สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผกก. พ.ต.ท.วันชัย อิทธิฤทธิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เด่นชัย อินทรจักร์ สว.สส. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราชบุรี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านชั้นเดียวก่ออิฐหลังคามุงกระเบื้อง มีตู้คาราโอเกะแบบหยอดเหรียญให้บริการ
โดยมีชาวบ้านพากันมามุงดูจำนวนมากพร้อมจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์สยองขวัญที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ภายในร้านพบโต๊ะ เก้าอี้ ล้มระเนนระนาด ขวดเหล้า โซดา จานชามแตกกระจายเกลื่อนกลาด ท่ามกลางรอยเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ที่พื้นหน้าร้านมีปลอกกระสุนตกอยู่เกลื่อนกลาด เป็นปลอกกระสุน 9 มม. 5 ปลอก และปลอกกระสุน 11 มม.อีก 4 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 5 คน ถูกช่วยเหลือนำส่ง รพ.โพธาราม แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา 3 คน
ประกอบด้วยนายสุรินทร์ เลี้ยงเชวงวงศ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ถนนโรงหีบ อ.โพธาราม ถูกยิงด้วยปืน 9 มม.ที่ปลายคางและหน้าท้อง นายสมหวัง เลือดแดง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. ที่ลำตัว 4 นัด และ น.ส.นริตสรา บัวคำ อายุ 26 ปี ลูกสาวเจ้าของร้าน ถูกกระสุนลูกหลงเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คนคือ นางสุวรรณา บัวคำ อายุ 48 ปี เจ้าของร้าน ถูกยิงที่ไหล่ขวา 1 นัด และนายคำพัน โกทัน อายุ 22 ปี เพื่อนของนายสุรินทร์ ถูกยิงที่หน้าอก 2 นัด ทั้งคู่อาการสาหัส
สอบสวนทราบว่า
นายสุรินทร์ ผู้ตาย ทำธุรกิจค้าส่งกากน้ำตาลให้โรงงานผลิตน้ำปลาใน จ.ราชบุรี ก่อนเกิดเหตุได้พานายคำพัน คนเจ็บ และเพื่อนอีกคน รวม 3 คน ไปนั่งดื่มกินหาความสำราญที่ร้านดังกล่าว โดยนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านนอกใกล้กับหน้าร้าน ระหว่างนั้นได้มีนายสมหวัง ผู้ตายอีกคน พร้อมเพื่อนอีก 2 คน คือนายสราวุธ ใช้ทอง อายุ 21 ปี และนายพิมาน ประทานสกุล อายุ 22 ปี เข้ามานั่งดื่มกินอีกโต๊ะภายในร้าน จนกระทั้ง 2 ฝ่ายต่างเมาได้ที่แล้วเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันเรื่องแย่งไมค์กันร้องเพลง รุนแรงบานปลายถึงขั้นยกพวกตะลุมบอนชกต่อยกันชุลมุน แต่เจ้าของร้านและพนักงานเข้ามาห้ามปรามแยกออกจากกันไว้ได้ กลุ่มของนายสมหวังจึงเช็กบิลกลับบ้านไป ส่วนกลุ่มของนายสุรินทร์ยังนั่งดื่มกินกันต่อ
สักพัก นายสมหวังพร้อมเพื่อนทั้ง 2 คน ขี่รถ จยย.ซ้อน 3 กลับมาที่ร้านอีกครั้ง
ทันทีที่จอดรถหน้าร้านโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง หนึ่งในนั้นได้ชักปืน 9 มม.ออกมากระหน่ำยิงใส่กลุ่มของนายสุรินทร์ ที่นั่งอยู่โต๊ะนอกร้านเสียงดังหูดับตับไหม้ คมกระสุนพุ่งเจาะร่างนายคำพัน จนกระเด็นตกเก้าอี้เป็นคนแรก จังหวะนั้น นายสุรินทร์ ที่ระวังตัวอยู่แล้วได้ชักปืน 11 มม. ที่พกติดตัวออกมาดวลสู้ กระหน่ำยิงใส่ร่างนายสมหวังจนล้มทรุดจมกองเลือด แต่ตัวเองก็พลาดท่าถูกยิงใส่เข้าปลายคางและหน้าท้องสิ้นฤทธิ์นอนจมเลือดคาโต๊ะไปอีกคน ขณะนั้น นางสุวรรณา เจ้าของร้าน และ น.ส.นริตสรา ลูกสาว ออกมาห้ามปรามทำให้ถูกกระสุนลูกหลงไปด้วย หลังก่อเหตุ นายสราวุธ และนายพิมาน เพื่อนของนายสมหวัง เห็นท่าไม่ดีรีบขี่รถ จยย.เผ่นหนีไป ตำรวจวิทยุสกัดจับแต่ไม่พบวี่แวว จะได้ตามล่าตัวมาดำเนินคดีต่อไป