ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ คุมพล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุชายถูกฟันเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 612 หมู่บ้านขุมทรัพย์นคร ซอย 6 ถนนพุทธมณฑล สาย3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 200 เมตร เปิดเป็นร้านขายไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ พบศพนายสุครีพ นามวิชา อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ เป็นพนักงานขับรถส่งของร้านอุบลกิตติพงศ์ขนส่ง สภาพศพนั่งคว่ำหน้าเลือดท่วมกายอยู่บนโต๊ะไม้หน้าบ้านหลังดังกล่าว ตรวจสอบตามร่างกายพบว่า บริเวณท้ายทอยมีบาดแผลฉกรรจ์ถูกฟันด้วยของมีคมยาวประมาณ 4 นิ้ว และลึกจนเห็นกระดูกต้นคอ นอกจากนี้ยังพบมีดดาบยาว 2 ฟุต เปื้อนคราบเลือด และขวดกระทิงแดงใส่เหล้าขาวตกอยู่ 1 ขวด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบนายบุญช่วย รัตนศิริธร อายุ 35 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 10 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ พนักงานร้านขายไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ ยืนรอมอบตัวอยู่ในสภาพเมาสุราอย่างหนัก เหงื่อแตกท่วมตัว ปากสั่น ยังให้การไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าตัวบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่เพียงว่า เป็นคนลงมือฟันผู้ตายเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ธรรมศาลาสอบปากคำนายปิยะพงศ์ นาถวุฒิ อายุ 33 ปี พนักงานร้านอุบลกิตติพงศ์ขนส่งให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 20.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่ตนกำลังจะเลิกงานเห็นผู้ตายนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่โต๊ะดังกล่าวเพียงลำพัง จากนั้นได้ชักชวนเพื่อนฝูงที่เคยดื่มเหล้าด้วยกันเป็นประจำมานั่งร่วมโต๊ะ เมื่อผู้ตายเห็นนายบุญช่วย เดินผ่านมา ผู้ตายตะโกนเรียกให้มาร่วมวงด้วย
นายปิยะพงศ์ให้การต่อว่า นายบุญช่วยตอบผู้ตายไปว่าไม่อยากดื่มเหล้า
แต่จะไปหาซื้อเบียร์มาดื่มที่ห้องพัก ทำให้ผู้ตายเกิดอาการหมั่นไส้ และพูดจาเสียดสีนายบุญช่วย ตลอดเวลาว่า หัวสูง ทำเป็นอยากกินเบียร์ เลยทำให้นายบุญช่วยเกิดอาการไม่พอใจ จากนั้นได้เดินไปซื้อเบียร์กลับเข้าไปในห้องพัก แต่ผู้ตายยังไม่หยุดพูด กลับตะโกนเสียงดังด่านายบุญช่วยตลอดเวลา ทำให้นายบุญช่วยทนไม่ไหว คว้ามีดดาบออกจากห้องเดินตรงเข้ามาหาผู้ตาย พร้อมตะโกนว่า "มึงไม่หยุดใช่มั้ย" แล้วก็ฟันผู้ตายจากทางด้านหลัง โดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว จากนั้นนายบุญช่วยก็เกิดอาการตกใจ รีบทิ้งมีดแล้วตะโกนบอกคนในระแวกนั้นว่า ให้แจ้งตำรวจมาจับ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะรอให้นายบุญช่วย หายจากอาการมึนเมาเสียจากนั้นก็จะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.