ผู้ต้องขังทุบหัวผู้คุม โดดตึกศาลอาญาดับ

เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 30 พ.ย. ขณะที่ ด.ต.สงกรานต์ ศรีสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยที่ศาลอาญา

ได้ออกตรวจบริเวณรอบอาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ถึงลานจอดรถหน้าศาลได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากเจ้าหน้าที่ศาลและชาวบ้านบริเวณนั้น จึงเข้าไปดูพบศพชายสวมชุดนักโทษนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นถนนทางเดิน ทราบชื่อผู้ต้องขังชาย (ผช.) สิทธิชัย หรือฉัตรชัย หรือสุทิน เพชรรัตน์ อายุ 25 ปี อยู่ในสภาพแขนหัก ซี่โครงหัก ขาทั้ง 2 ข้างยังมีโซ่ตรวนพันธนาการอยู่ ด.ต.สงกรานต์ได้วิทยุแจ้งนายธันว์ บุณยะตุลานนท์ เลขานุการศาลอาญา นายเศวต จันทวงศ์ ผอ.ศูนย์รักษา ความปลอดภัยไปร่วมตรวจสอบ
 

เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเพิ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้คุมของกรมราชทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าห้องพิจารณา 713 ที่อยู่บนชั้น 7

จากนั้นได้วิ่งกระโดดระเบียงลงมาฆ่าตัวตาย เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบพบนายอนันต์ คงปาน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 ถูกทำร้ายจนนอนหมดสติอยู่จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ก่อนประสาน พ.ต.อ.อาคม จันทลาช ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ พงส. (สบ 3) เดินทางมาสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
 

จากการตรวจสอบประวัติผู้ตายทราบว่าเป็นผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังตกเป็นจำเลยคดีพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.49 ผู้ตายพกปืนลูกซองเบอร์ 12 ตัดลำกล้องสั้นพร้อมกระสุน 5 นัด ไปบริเวณสะพานลอยข้ามแยกคลองตัน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ท้องที่ สน.มักกะสัน ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันเดียวกันนี้ ส่วนนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 11 ธ.ค.50 ทั้งนี้ ผู้ตายยังเคยมีคดีชิงทรัพย์ที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ได้แหกคุกหลบหนีมาอยู่ กทม. กระทั่งถูกจับอีกครั้งในข้อหาพกพาอาวุธปืน
 

นายวีระ มีศรี ทนายความของผู้ตาย กล่าวว่า

คดีนี้ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในคดีอาวุธปืน ถึงช่วงบ่ายได้สืบพยานโจทก์ไป 3 ปาก สืบพยานจำเลย 1 ปากก่อนเสร็จการพิจารณา ระหว่างฟังสืบพยาน ผู้ตายมีอาการหงุดหงิดตลอดเวลาและรบเร้าให้ช่วยโทรศัพท์ติดต่อกับ น.ส.ยุพิน ไม่ทราบนามสกุล แฟนสาว ให้เดินทางมาพบที่ศาลด้วย แต่ติดต่อไม่ได้ พอออกจากห้องพิจารณา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวออกมาเพื่อลงลิฟต์ ทันใดนั้นผู้ตายได้ฉวยโอกาสสะบัดหลุดแล้วจับศีรษะนายอนันต์ เจ้าหน้าที่ผู้คุมกระแทกระเบียงจนสลบก่อนวิ่งไปหน้าห้องพิจารณาชั้น 7 กระโดดระเบียงด้านหน้าลงมาทันที ด้านเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ห้องพิจารณายืนยันว่า การสืบพยานโจทก์และจำเลยตลอดทั้งวัน สังเกตเห็นว่าผู้ตายมีอาการเคร่งเครียด นั่งก้มหน้า มือกุมขมับ โดยในคดีพกพาอาวุธปืนนั้น ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ กระทำความผิด หลังจากที่ศาลมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 11 ธ.ค.50 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ทำหนังสือขอให้ส่งตัวจำเลยไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 17 ธ.ค. อีกด้วย เลยอาจทำให้เครียดจนตัดสินใจฆ่าตัวตายก็ได้