กระสุนปริศนาเจาะหัวดับผู้สื่อข่าว7สี
อุบัติเหตุสยองขวัญรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 เม.ย. พ.ต.ท.รักชาติ เรืองเจริญ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้ง ว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในพิธีปิดการฝึกซ้อมและสาธิตแผนการการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยาน ภายในกองบิน 46 จ.พิษณุโลก จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ ผกก. ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดหยดเป็นทางยาว และปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 (ลูกซ้อม) ตกอยู่เกลื่อนพื้น และปลอก 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกลำเลียงส่งไปรักษาตัวที่ รพ.พุทธชินราช และ รพ.รัตนเวช 2 ไปแล้วก่อนหน้านี้
ทราบชื่อ ส.อ.ธนะรัตน์ แสงเทียน ทหารสังกัดกองพลพัฒนาที่ 3 ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จ.พิษณุโลกและเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษช่อง 7 สี รวมทั้ง ผอ.สถานีวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม ดี เอฟเอ็ม 93 เมกะเฮิรตซ์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่ใต้ใบหูด้านขวาและขมับขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด.ญ.นภารัตน์ ท่านพรหม อายุ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 491/245 หมู่ 2 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่น่องซ้ายกระสุนฝังใน แต่แพทย์ได้ผ่าหัวกระสุนออก จนอาการปลอดภัยแล้ว และด.ช.เอกมล คำหวาน อายุ 11 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 6/3 ต.นาสาร อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ถูกกระสุนปืนชนิดเดียวกันเฉี่ยวที่บริเวณขมับขวา และแพทย์ช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ กองทัพภาคที่ 3 ได้ทำพิธีปิดการฝึกซ้อมและสาธิตแผนการการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยาน ประจำปี 49 หรือ Sarex 2006 โดยใช้บริเวณลานจอดเครื่องบิน ภายในท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 เป็นสถานที่จัดงาน มี พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธี ซึ่งภายในงานมีการจัดแสดงท่าออกกำลังกายประกอบอาวุธและการแสดงท่ายิงฉับพลันประกอบ เสียงเพลง ด้วยการใช้กระสุนซ้อมหรือ ลูกแบงค์ ซึ่งใช้กระดาษหรือลูกยางแทนหัวกระสุน โดยมีทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ทั้งหมด 6 นาย แต่งกายในชุดลายพรางพร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 ออกมาแสดงบนเวที ท่ามกลางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากกองทัพบกและกองทัพอากาศร่วมด้วยจำนวนมาก รวมทั้งบรรดาช่างภาพและผู้สื่อข่าวรอรายงานข่าวดูอยู่ด้านหน้าเวทีการแสดง
แต่หลังจากที่ ส.อ.ธนะรัตน์ ได้บันทึกภาพข่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปรวมกลุ่มยืนพูดคุยกับเพื่อนสื่อมวลชน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีกระสุนปืนเอ็ม 16 พุ่งมาถูก ส.อ. ธนะรัตน์ เข้าที่ขมับขวาจนล้มลงไปกองกับพื้นและมีเลือดไหลออกนองพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้มีกระสุนปืนลูกหลงไปถูก ด.ช.เอกมล และ ด.ญ.นภารัตน์ ได้รับบาดเจ็บไปด้วย ต่อหน้าต่อตาประธานในพิธีและ ผู้มีเกียรติเข้าร่วมชมงาน จนแทบหวิดเกิดเหตุโกลาหล เนื่องจากต่างพากันตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับต้องรีบช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ด้าน จ.ส.อ.สมบัติ ท่านพรหม อายุ 42 ปี สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 4 ค่ายสฤษเสนา บิดาของ ด.ญ.นภารัตน์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาได้พาลูกสาวไปดูพิธีปิดงาน เนื่องจากในงานมีการกระโดดร่มแบบดิ่งพสุธา ที่มีตนร่วมกระโดดด้วย แต่หลังจากลงมาถึงพื้น พบว่าลูกสาวถูกกระสุนปืนเข้าที่ขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ และทราบว่าเป็นกระสุนมาจากอาวุธปืนของทหารที่แสดงท่าทางการยิงแบบฉับพลัน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่า เหตุใดจึงมีกระสุนจริงอยู่ในอาวุธปืนที่นำมาแสดงด้วย คงต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุยังไม่มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านใดในกองทัพภาคที่ 3 ออกมาให้รายละเอียดในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยแจ้งเพียงว่าทาง พล.ท.สพรั่ง แม่ทัพภาคที่ 3 จะเป็นผู้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเวลาใด อีกทั้งยังจะต้องตรวจสอบด้วยว่า กระสุนจริงออกมาจากปืนกระบอกใด และเหตุใดกระสุนจริงจึงถูกนำมาใช้ในการแสดงได้