เมีย-กิ๊ก ร่วมลวงฆ่าเสี่ยสวนส้มท่าลี่ หวังเปิดทางรักและเงินประกัน 1 ล้านบาท
จ้าง 5 หมื่น ส.อบต.และคนเก็บขยะเป็นมือสังหาร ตร.รวมหลักฐานเค้นสอบกว่า 1 เดือน จนสารภาพ ทำทีปวดฉี่ให้สามีจอดรถ มือปืนตามจ่อยิงจนตาย อำพรางทำร้ายฝ่ายหญิงชิงทรัพย์ แต่หลักฐานชี้จงใจฆ่าและวางแผนอย่างดี เป็นเวลากว่า 1 เดือนที่คดีสังหาร นายหุมพันธ์ อารมณ์สวะ อายุ 40 ปี เจ้าของสวนส้ม ต.น้ำแคม อ.ท่าลี่ จ.เลย ถูกคนร้ายยิงด้วยปืนลูกซองเสียชีวิตในรถปิกอัพนิสสัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 847 เลย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะขับรถนำส้มไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.อุดรธานี โดยนางสุรีย์รัตน์ อารมณ์สวะ อายุ 36 ปี ภรรยา ที่นั่งคู่มาด้วยถูกทำร้ายที่บริเวณท้ายทอยและเบ้าตาด้านซ้าย ให้การว่า ขณะเดินทางมีหญิงวัยรุ่นมาโบกรถให้จอดเพื่อขอเงิน ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งมาประกบและมีเสียงปืนดังขึ้น จากนั้นวัยรุ่น 3 คนมาทำร้ายจนสลบ และขโมยเงิน 3 หมื่นบาทหลบหนีไป แต่การสอบสวนของตำรวจพบว่า นางสุรีย์รัตน์ ให้การมีพิรุธ เนื่องจากขอความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุนานกว่า 4 ชั่วโมง จนสภาพศพนายหุมพันธ์เริ่มแข็งแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2550
ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศสส.ภ.4 และ พ.ต.ท.ดิเรก ยศนันท์ รอง ผกก.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายสุวิทย์ ไวโสภา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339 หมู่ 7 ต.นาแขม อ.เมือง จ.เลย ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามหมายจับของศาลจังหวัดหนองบัวลำภู โดยจับได้ขณะหลบซ่อนอยู่ที่หอพัก ถนนนิยมทัศนา ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อกลางดึกที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยรรยง กล่าวว่า สืบเนื่องจากคดีคนร้ายสังหารนายหุมพันธ์ ตำรวจได้สอบปากคำนางสุรีย์รัตน์ ภรรยา พบว่ามีพิรุธหลายอย่าง โดยพบว่าหากเป็นการปล้นทรัพย์น่าจะมีการทำร้ายร่างกายมากกว่านี้ และจากการสอบสวนนางสุรีย์รัตน์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้วางแผนฆ่าสามี ร่วมกับนายสุวิทย์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว โดยให้ไปหามือปืนมาสังหารนายหุมพันธ์ ด้วยค่าจ้าง 5 หมื่นบาท
ต่อมานายสุวิทย์ได้ว่าจ้าง นายใบ สุพรมอินทร์ ส.อบต.นาแขม มือปืน
และนายแดง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) พนักงานเก็บขยะ อบต.นาแขม มาฆ่าสามีโดยอำพรางเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่พยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุและพยานนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้จากสภาพศพ บ่งชี้ว่าเป็นการเจตนาฆ่า และมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ตำรวจจึงจับนางสุรีย์รัตน์ และตรวจยึดปืนลูกซองที่ใช้กระทำผิดได้จากบริเวณที่เกิดเหตุ และยึดรถปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน ผค 7358 เชียงใหม่ พาหนะในการก่อเหตุ ได้จากบ้านพักของนายสุวิทย์ ที่ ต.นาแขม อ.เมือง จ.เลย พ.ต.อ.ยรรยง กล่าวว่า สาเหตุน่าจะมาจากการที่นางสุรีย์รัตน์ ต้องการฆ่าสามีให้พ้นทางเพื่อจะได้อยู่กินกับนายสุวิทย์ อีกทั้งผู้ตายได้ทำประกันชีวิตวงเงินคุ้มครองกว่า 1 ล้านบาท จึงน่าจะเป็นแรงจูงใจอีกทางหนึ่ง ซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายใบ และนายแดง อยู่ในระหว่างการขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดหนองบัวลำภู
นายสุวิทย์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขายเสื้อผ้าที่ตลาดสด จ.เชียงใหม่
กระทั่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้กลับมาทำไร่ยางพาราที่บ้านใน จ.เลย และได้รู้จักกับนางสุรีย์รัตน์ จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จึงได้ร่วมกันวางแผนร่วมกันฆ่านายหุมพันธ์ ก่อนลงมือได้ติดต่อกับนางสุรีย์รัตน์ตลอด กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุนางสุรีย์รัตน์ อ้างว่าปวดฉี่ให้สามีจอดรถที่ริมถนน นายใบและนายแดงที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมา จึงตรงเข้าจ่อยิงนายหุมพันธ์ 2 นัด ส่วนนายสุวิทย์ขับรถปิกอัพตามมาดู หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแกะรอยและยึดรถ จึงได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.ชุมพร และจ.ราชบุรี แต่ไม่รอดถูกจับได้ในที่สุด