เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 พ.ย. พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.สินมนูญ์ พุทธิกุล ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา
กับกำลังตำรวจชุดจับกุม นำตัวนายสำเริง หรือเลิง แสงจันทร์ อายุ 30 ปี น.ส.ธันยนันท์ หรือบุ้ง ผลเจริญ อายุ 19 ปี นายจง วุ่ย เฉียน อายุ 30 ปี สัญชาติจีน และนายยิงกุ้ย ไฉ่ อายุ 26 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์มาแถลงข่าวพร้อมของกลาง มีเงินสด 450,000 บาท รถยนต์โตโยต้า ทะเบียน สอ 9799 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 11 ใบ
ตำรวจชุดจับกุม แถลงว่า ตำรวจได้รับแจ้งความจากประชาชนทั่วไปว่า
ขณะนี้มีกลุ่มคนร้ายหลอกลวงเอาเงินทางโทรศัพท์ ซึ่งคดีนี้ตำรวจได้รับแจ้งความจากนายสุทัศน์ เบญจานุวัตร ว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 09.30 น. ได้รับโทรศัพท์จากผู้อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทจัดรายการชิงโชค ค้นหาผู้โชคดีทางโทรศัพท์โดยการสุ่มโทร. ซึ่งผู้โทรศัพท์มามีเสียงพูดเชิญชวนเป็นเสียงหญิงสาว อ้างว่านายสุทัศน์คือผู้โชคดีถูกรางวัลแจ็กพอต ให้ไปรับรางวัลทางตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลาดหญ้า ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน กทม. โดยเร็ว มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์
เมื่อนายสุทัศน์ไปที่ตู้เอทีเอ็ม คนร้ายก็โทรศัพท์ มาสั่งการว่า
ให้กดรหัสเอทีเอ็มเพื่อเข้ารายการก่อนจากนั้นให้เปลี่ยนรายการเป็นภาษาต่างประเทศ ผู้เสียหายก็กดไปตามนั้น จากนั้นก็มีคนร้ายอีกคน เปลี่ยนมาทำหน้าที่แนะนำให้กดรหัสผู้โชคดี คือ 29949382 ผู้เสียหายก็กดตามไปจนครบถ้วน พอเสร็จรายการ คนร้ายก็แจ้งว่า ท่านทำรายการถูกต้องตามกติกา ให้นอนรอรับเงินที่บ้าน ผู้เสียหายก็นั่งรอเงินอยู่บ้านจนวันเวลาผ่านไป ก็ไม่มีเงินรางวัลมาแต่อย่างใด จึงฉุกคิดได้ว่าท่าจะถูกหลอก จึงตรวจสอบไปที่ธนาคารเจ้าของบัญชีเอทีเอ็มของผู้เสียหาย ก็พบว่าตนเองได้กดโอนเงินจากบัญชีตัวเองไปให้ผู้แอบอ้างว่าชื่อนายสายชล คงพันธ์ และนางโสภา ผิวสว่าง จำนวน 299,493.82 บาท ในวันที่ 30 ส.ค.นั่นเอง
ต่อมาตำรวจได้ออกสืบสวนจากตู้เอทีเอ็มปลายทาง
ที่คนร้ายใช้เป็นที่กดเงินออก พร้อมดูทีวีวงจรปิด จากนั้น เริ่มแกะรอยจากบัญชีที่เปิดลอยไว้ จนพบว่าคนร้ายเป็นคนจีน หัวหน้าแก๊งชื่อ “ตี๋ใหญ่” จึงขอหมายจับจากศาลอาญาธนบุรี ไปจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ที่ลานจอดรถตลาดใหญ่ชลบุรี ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี ผู้ต้องหาซัดทอดว่า พวกตนแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นคนโทรศัพท์ ดัดแปลงเสียงให้น่าเชื่อถือเท่านั้น ได้ค่าจ้างคราวละ 1 พันบาท โดยส่งเงินไปให้นายตี๋ใหญ่ ซึ่งตำรวจจึงออกสืบสวนต่อไป เพราะพฤติการณ์ลักษณะนี้แพร่หลายมานานจนชาวบ้านเดือดร้อน แต่จับคนร้ายยาก สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้ ตำรวจกล่าวหาว่าร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นต่อไป