ได้รับแจ้งว่ามีคนทำร้ายร่างกายพระภิกษุสงฆ์ที่สำนักสงฆ์ชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.สูงเนิน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ดำรง รอดโพธิ์ทอง ผกก.พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ เจติกานนท์ สว.สป. และมูลนิธิสว่างแสงธรรมสูงเนิน ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิสร้างด้วยไม้ยกพื้นสูงมีขนาดเล็กสำหรับพระภิกษุจำวัดได้หลังละ 1 รูป พบว่าที่บานประตูห้องถูกกระแทกอย่างแรงจนหลุดออก ภายในห้องข้าวของล้มระเนนระนาดและพบร่างพระสำลี จิตฺตปาโล อายุ 51 ปี นอนฟุบจมกอง เลือดอยู่ด้วยในสภาพตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำเขียวทั้งตัว และที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนแตกเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนอง จึงช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสูงเนิน
สอบสวนพระสำลีให้การแบบกระท่อนกระแท่นว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังจำวัดอยู่ภายในกุฏิเพียงลำพังก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาเคาะประตูเรียก
ซึ่งจำเสียงได้ว่าเป็นนายลิ่มยา วงศ์ประดิษฐ์ อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ 42 หมู่ 4 ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัด แต่อาตมาไม่ยอมเปิดประตูรับ เนื่องจากนายลิ่มยาอยู่ในอาการเมาสุราจึงตะโกนบอกไปว่า มีธุระอะไรก็ขอให้มาคุยกันหลังจากหายจากเมาแล้ว แต่นายลิ่มยาไม่ยอมฟังเสียงได้พูดจาหยาบคายและพูดท้าทายอยู่นอกห้อง เมื่ออาตมาไม่ยอมออกไปพบนายลิ่มยาจึงถีบประตูห้องจนพัง
อาตมาเห็นท่าไม่ดีพยายามจะวิ่งหนี แต่ถูกนายลิ่มยาจู่โจมเข้ามาจับจีวรที่ห่มอยู่แล้วกระชากจน ล้มลงศีรษะไปกระแทกกับฝาผนังห้องจนแตกเลือดอาบก่อนจะเตะ ต่อย อาตมาจนเขียวช้ำไปทั้งตัว เมื่อเห็นท่าไม่ดีอาตมาจึงคว้าไม้เท้าตีเข้าไปที่หางคิ้วของนายลิ่มยาจนแตกเลือดอาบหน้า นายลิ่มยาจึงกระโดดกุฏิหลบหนีไป