โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2549 15:58 น.
ศาลอนุมัติหมายจับ สนธิ ในคดีหมิ่นพระมหากษัตริย์แล้ว โดยล่าสุด สนธิ พร้อมทนายความเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.37 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน กองปราบปราม โดย พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามที่ถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ โดยก่อนหน้านี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความได้ยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ศาลไต่สวนพยานหลักฐานฝ่ายพนักงานสอบสวน โดยให้เหตุผลว่าพยานหลักฐานดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ และนายสนธิไม่มีเจตนาหลบหนี
คำสั่งศาลดังกล่าว มีใจความว่า กรณีมีหลักฐานตามสมควร ว่า นายสนธิ ผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี ทั้งได้ความจาก พ.ต.อ.กฤษฎิ์ เปียแก้ว พนักงานสอบสวน ว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2549 พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 17 เม.ย.2549 แต่ผู้ต้องหาไม่ไปตามหมายเรียก ต่อมาวันที่ 18 เม.ย.2549 พนักงานสอบสวนมีหมายเรียกให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24, 25 เม.ย.2549 แต่ก็ไม่ไปตามหมายเรียกอีก โดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร
ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่า ได้ให้ทนายความแจ้งแก่พนักงานสอบสวนแล้วว่า มีเหตุจำเป็นไม่สามารถไปพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดนัด จึงขอเลื่อนไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 17 พ.ค.2549 นั้น ก็ได้ความจากคำแถลงของทนายความผู้ต้องหา ว่า นายสนธิ เดินทางจากประเทศจีน ถึงประเทศไทย วันที่ 11 เม.ย.2549 และมีกำหนดการปราศรัยที่ จ.สระแก้ว ในวันที่ 17-18 เม.ย.นั้น, มีกำหนดการปราศรัยที่ จ.ตรัง วันที่ 20 เม.ย., ที่ จ.ภูเก็ต วันที่ 21 เม.ย., ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 22 -24 เม.ย., ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 25 เม.ย.
แสดงว่า ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2549 เป็นวันที่ผู้ต้องหาเดินทางกลับถึงประเทศไทย ถึงวันที่ 25 เม.ย.2549 อันเป็นวันที่พนักงานสอบสวนนัดให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ผู้ต้องหาไม่มีกำหนดการปราศรัยตามสถานที่ต่างๆ ทุกวัน และไม่ปรากฏข้อเท็จจริง จากคำแถลงของทนายผู้ต้องหา ว่า วันที่ไม่มีกำหนดการปราศรัยผู้ต้องหามีภารกิจจำเป็นอยู่ที่ใด ดังนั้น หากผู้ต้องหามีเจตนาไปรับทราบข้อกล่าวหาจริง ก็ย่อมสามารถติดต่อขอไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ผู้ต้องหาไม่มีภารกิจสำคัญได้โดยไม่ยาก แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ดำเนินการ ยิ่งกว่านั้นโดยปกติ การปราศรัยทางการเมืองมักจะเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย ต่อเนื่องไปจนถึงเวลากลางคืน และมีผู้ขึ้นไปพูดบนเวทีปราศรัยหลายคนสลับกันไป เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ต้องหาจะขึ้นปราศรัยคนเดียวตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งยุติการปราศรัย หากผู้ต้องหามีภารกิจอื่น เช่น การไปพบพนักงานสอบสวนตามนัด ก็ย่อมกำหนดเวลาขึ้นปราศรัยในเวลาที่เหมาะสมไม่ให้กระทบต่อเวลานัดหมายโดยง่าย ทั้งการไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกไม่ทำให้ต้องเสียเวลามากนักและไม่กระทบกระเทือนถึงกำหนดการปราศรัยของผู้ต้องหา เพราะพนักงานสอบสวนไม่อาจแกล้งจับกุม และไม่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 วรรคท้าย ข้ออ้างของผู้ต้องหาจึงไม่มีเหตุผลเพียงพอและมิใช่เหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาข้างต้น จึงอนุญาตให้ออกหมายจับ นายสนธิ ผู้ต้องหาตามขอ เมื่อจัดการตามหมายจับได้แล้วให้ส่งบันทึกการจับกุมต่อศาลภายใน 7 วัน
หลังฟังคำสั่งศาล นายสุวัตร เปิดเผยว่า ตนไม่อาจยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่ง หรือขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ดังนั้น จึงต้องพานายสนธิไปมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และจะขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้แล้ว
เมื่อถามว่า การถูกจับครั้งนี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์การเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ นายสุวัตร ตอบว่า ไม่กระทบ และไม่น่าหนักใจ ดีเสียอีกที่คดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นสอบสวน ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยว่านายสนธิกระทำความผิด เพียงแต่มีมูลตามที่ถูกกล่าวหา
ส่วนการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 2 พ.ค.2549 นี้ จะยังมีต่อไปหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า การปราศรัยที่กำหนดไว้แล้วนั้นจะยังคงเดินหน้าต่อไป และนายสนธิ ก็ยังปราศรัยได้ แต่จะเป็นการพูดในเนื้อหาน้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะไม่มีการเรียกร้องมาตรา 7
และล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองปราบปราม ว่า เวลา 15.12 น. นายสนธิ พร้อมด้วย นายสุวัตร ทนายความได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยตำรวจกองปราบปรามได้อนุญาตให้นายสนธิ และทนายความเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปบนห้องของพนักงานสอบสวนได้ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป
หลังจากนั้น ประมาณ 15 นาที ตำรวจที่ยืนรักษาการณ์อยู่ที่บันไดประมาณ 10 นาย ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปภายในห้องรับรองบนชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องของ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.พร้อมกับตรวจบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวอย่างเคร่งครัด โดย นายสนธิ และ พล.ต.ต.วินัย นั่งประจันหน้ากันอยู่ และตำรวจอนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพประมาณ 5 นาที ก่อนจะเชิญให้ลงอมาอยู่ที่ชั้นล่างตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีประชาชนทยอยเดินทางเข้าให้กำลังใจนายสนธิที่กองปราบปรามอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง รักษาการ ส.ว. หลายคน อาทิ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ นายการุณ ใสงาม นายวิญญู อุฬารกุล และนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายสนธิถึงกองปราบปรามแล้ว