จับแล้ว2คนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ด.ต. สภ.สามพรานคาเครื่องแบบ
เผยตร.ภาค 7 บุกรวบโจ๋รุ่นใหญ่ใช้ไม้ดักหวดจนจยย. ดาบตำรวจล้มลง แล้วยิงซ้ำค้นเงินไปได้ 2 พัน ขี่จยย.หลบหนี ถึงกลางทางรู้ว่าเหยื่อเป็นตำรวจเลยกลับมายิงซ้ำอีกรอบแล้วเอาจยย.ไปทิ้งคลอง สารภาพเคยก่อเหตุทำนองนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ได้เงินมาแล้วเอาไปซื้อยาบ้า เที่ยวเตร่ ตร.สอบประวัติพบมีคดีติดตัวอื้อ
จากกรณีพบศพด.ต.สุนทร ถึกกวย อายุ 38 ปี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สามพราน จ.นครปฐม
นอนเสียชีวิตคาเครื่องแบบสภาพถูกยิงกลางศีรษะและถูกตีอย่างโหดเหี้ยม แต่ทรัพย์สินอาวุธปืนพกสั้นประจำตัวแบบออโตเมติกขนาด 11 ม.ม. พร้อมกระสุน วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องอยู่ครบ ส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีเทาทะเบียน กวบ.218 นครปฐม ที่ผู้ตายขับขี่มาพร้อมเอกสารส่วนตัวกับเงินสดจำนวนหนึ่งหายไป เหตุเกิดริมถนนสายวังน้ำขาว-คลองใหม่ ท้องที่หมู่ที่ 2 ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งตำรวจภาค 7 ที่ร่วมกันออกสืบสวนสอบสวนจนได้เบาะแสคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ที่มาอาศัยบ้านเพื่อนใกล้ที่เกิดเหตุหลับนอน ซึ่งชุดของพ.ต.อ.สุรศักดิ์ ปิ่นทอง ผกก.สภ.สามพราน เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายจนพบหลักฐานสำคัญ จึงเชื่อได้ว่าเป็นคนร้าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พ.ย.
ที่ห้องประชุม สภ.สามพราน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภ.7 โฆษกตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ยงยุทธ เตียวตระกูล รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก.ภ.จว. นครปฐม พ.ต.อ.วิเชียร ตันตะวิริยะ พ.ต.อ.สืบพงษ์ ภาษยะวรรณ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผบก.หน.ศสส.กสส.ภ.7 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ปิ่นทอง ผกก.สภ.สามพราน และกำลังตำรวจควบคุมตัวนายธงชัย หรือแป๊ะ เทียมถนอม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/62 ม.3 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นคร ปฐม และ นายสำเริง หรือต้น น้อยพิทักษ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/86 ม.3 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม คนร้ายที่ร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ด.ต.สุนทรมาแถลงข่าว
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลาประมาณ 23.30 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงด.ต.สุนทร ถึงแก่ความตายแล้วชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทา หมายเลขทะเบียน กวบ 128 นครปฐม เงินสดจำนวน 2,000 บาท แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุสั่งให้ชุดสืบสวนตำรวจภาค 7 และตำรวจสภ.อ.สามพราน จ.นครปฐม ออกติดตามล่าตัวคนร้าย
จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่า
คนร้ายที่กระทำความผิดในคดีนี้คือนายธงชัย และนายสำเริง วัยรุ่นที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับทรัพย์และยาเสพติดหลายคดี จึงขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับบุคคลทั้งสองในข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์และร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่" กระทั่งเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนแบบพกรีวอลเวอร์ขนาด .32 ที่ใช้ก่อเหตุได้ที่ท้องที่ สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
จากการสอบสวนทั้งสองให้การรับสารภาพว่า
ยิง ด.ต.สุนทร แล้วเอาเงินสดกับรถจักรยานยนต์ไปจริงเพียงแค่ต้องการเงินไปซื้อยาบ้า และเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ทั้งจุดเดิมและละแวกพื้นที่ใกล้เคียง โดยคืนเกิดเหตุหลังดื่มเหล้ายาดองแล้วได้ชวนกันออกมาดักล่าเหยื่อ โดยนายสำเริง ทำหน้าที่ดักตีเหยื่อด้วยท่อนไม้ ซึ่งก่อนที่ด.ต.สุนทรจะมาถึง มีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมาจากทางวัดบางช้างเหนือผ่านมา 1 คัน และเมื่อด.ต.สุนทรขับรถผ่านมา โดยไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ นายสำเริงใช้ท่อนไม้ฟาดจนด.ต.สุนทรล้มลง แต่ทำท่าลุกขึ้นจึงเรียกให้นายธงชัย ออกมาจากที่ซ่อน ชักปืนออกมายิงใส่ด.ต.สุนทรจนหงายท้องลงไป จากนั้นก็ช่วยกันค้นทรัพย์สินในกระเป๋ากางเกงได้เงินสดไปสองพันบาทเศษ แล้วจึงขี่รถจักรยานยนต์ของด.ต.สุนทรหลบหนีไป โดยนายสำเริงทำหน้าที่ขับขี่ เมื่อขับออกไปได้ครู่หนึ่งนายธงชัยเอะใจว่าเหยื่อรายนี้จะเป็นตำรวจเกรงว่าจะจำหน้าทั้งสองได้ นายธงชัยจึงบอกให้กลับรถมายิงซ้ำอีก 1 นัด จากนั้นก็ขับรถของเหยื่อไปทิ้งลงคลองบางกระสัน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 ก.ม. จากนั้นก็พากันหลบหนีไปบ้านพรรคพวกที่อ.นครชัยศรี 1 คืน ก่อนจะหนีไปอาศัยที่บ้านลูกพี่คนหนึ่งที่ท้องที่สภ.เดิมบางนางบวช จนโดนจับดังกล่าว
หลังแถลงข่าวพล.ต.ท.วรพงษ์ นำผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุ
ตั้งแต่วางแผน ดักเหยื่อแล้วลงมือก่อเหตุ แล้วเอารถจักรยานยนต์ไปทิ้งคลอง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาไปกราบขอขมาศพที่ตั้งอยู่ที่วัดตากแดด อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งทุกขั้นตอนมีประชาชนที่ทราบข่าวมามุงดูหน้าคนร้ายนับร้อยคน เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังตำรวจกว่า 100 นาย มาป้องกันเหตุและอำนวยความสะดวกในการทำแผนโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา กล่าวชื่นชมการทำงานของตำรวจทุกหน่วยที่ร่วมกันคลี่คลายคดีจนจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วด้วยเวลาเพียง 2 วันเศษๆ และยังกล่าวย้ำกับญาติของด.ต.สุนทร ขณะนำผู้ต้องหาไปขอขมาศพอีกด้วยว่า "การเสียชีวิตของด.ต.สุนทรครั้งนี้ถือว่าเป็นการเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปูนบำเหน็จให้อย่างเต็มที่ รวมทั้งการช่วยเหลือตามสิทธิ์ของสวัสดิการทุกอย่าง
ด้านพล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า
จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหายังรับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้ในเขตท้องที่จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียงหลายครั้ง ซึ่งจะสอบสวนขยายผลต่อไป และหากผู้ใดสงสัยว่าจะถูกคนร้ายกระทำการดังกล่าวให้ติดต่อได้ที่สภ.สามพราน และจากการตรวจสอบประวัติของคนร้ายทั้งสองพบว่า เคยกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ เมื่อ พ.ศ.2549 นอกจากนี้ยังเคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์เมื่อ พ.ศ.2544 อีก 4 คดี รวมทั้งยังเป็นเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มของนายวิศนุ หรือต๊อก อยู่ญาติมาก ที่ถูกเจ้าหน้าที่ ปส.2 วิสามัญฆาตกรรมไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา และอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงด.ต.สุนทรนั้น ก็เป็นอาวุธปืนของนายวิศนุ