ศาลมีคำสั่งลงโทษจำคุกครูทำอนาจารเด็กสถานหนัก เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.
ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กทม. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายลอน โสรกนิษฐ์ อาจารย์ประจำชั้น ป.2 ระดับ 7 และนายพิมล ซุ่นศรี อาจารย์ 2 ระดับ 7 ครูสอนพละ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านสายไหม เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงไม่เกิน 13 ปี ความผิดฐานพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร กระทำอนาจารและพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร กระทำ ชำเราฯ หน่วงเหนี่ยว กักขัง เพื่อการอนาจาร
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.-10 ส.ค.49 ต่อเนื่องกัน
จำเลยทั้งสองได้กระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทงต่างกัน คือนายลอน จำเลยที่ 1 ได้กระทำอนาจารแก่เด็กหญิง อายุระหว่าง 7-8 ปี จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งย่านสายไหม และพรากผู้เสียหายทั้ง 5 คน ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขังกระทำการด้วยประการใดให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เพื่อยินยอมให้จำเลยทั้งสองกระทำชำเรา โดยจำเลยทั้งสองยังร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายแก่ผู้เสียหายทั้ง 5 เหตุเกิดที่แขวงและเขตสายไหม กทม. ต่อมาวันที่ 10 ส.ค.49 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมจำเลยทั้งสองส่งฟ้องศาล โดยจำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการพรากเด็กหญิงผู้เสียหาย
ซึ่งมีอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังขู่เข็ญ โจทก์มีแพทย์ตรวจชันสูตรบาดแผลเด็กหญิงที่ถูกกระทำอนาจาร ระบุว่าพบร่องรอยการฉีกขาดของอวัยวะเพศ สอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหาย โดยที่แพทย์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยที่ 1 มาก่อน ส่วนที่จำเลยที่ 1 นำสืบต่อสู้มานั้นพยานจำเลยไม่มีน้ำหนักเพียงพอหักล้างพยานโจทก์ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 ได้กระทำอนาจารต่อเด็กหญิงผู้เสียหายคนหนึ่ง อายุ 7 ขวบ โดยแพทย์ผู้ตรวจร่างกายผู้เสียหายพบบาดแผลที่เกิดจากการถูกกระทำชำเรา และเป็นคำเบิกความที่สอดคล้องต้องกันกับผู้เสียหายเช่นกัน พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีน้ำหนักรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยทั้งสองได้กระทำชำเราผู้เสียหายจริง ประกอบกับคำเบิกความของผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็ก อายุระหว่าง 7-8 ปีนั้น เชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง ยากที่จะปรุงแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อให้จำเลยทั้งสองได้รับโทษ