จากเหตุวุ่นวายกรณี พ.อ.ศักดิ์ชัย คำคงศักดิ์ นายทหารสังกัดกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก
ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ภายในโรงเรียนสารวิทยา ย่านบางเขน โดยต้นเหตุเกิดจากการที่บุตรสาวของ พ.อ.ศักดิ์ชัย นักเรียนหญิงชั้น ม.5/3 ถูกทำร้าย ในขณะเกิดเหตุมีครูอาจารย์หลายคนพยายามเข้าไปห้ามปราม จนเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น ทำให้ พ.อ.ศักดิ์ชัยไม่พอใจ แจ้งความฟ้องร้องหมิ่นประมาทนายณัฐ โลหะธนกุล และอาจารย์หญิงอีก 2 คน จนเรื่องบานปลายกลายเป็นศึกศักดิ์ศรีระหว่างอาจารย์โรงเรียนสารวิทยากับนายทหารระดับพันเอก
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อตอนสายวันที่ 19 พ.ย.
พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องเมื่อปลายเดือน ส.ค. ตนได้นัดทางฝ่าย พ.อ. ศักดิ์ชัยและอาจารย์โรงเรียนสารวิทยามาเจรจาไกล่เกลี่ยกันแล้ว 2-3 ครั้ง เพื่อหาข้อยุติ แต่ปรากฏว่าล้มเหลว เพราะต่างฝ่ายต่างมีศักดิ์ศรี เหตุที่เกิดขึ้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องที่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.6 แจ้งความให้ดำเนินคดี พ.อ.ศักดิ์ชัย กับกรณีที่ พ.อ.ศักดิ์ชัยแจ้งเอาผิดนายณัฐ อาจารย์โรงเรียนสารวิทยา ฐานหมิ่นประมาท ในส่วนของคดีหมิ่นประมาท หากยอมที่จะพูดคุยไกล่เกลี่ยกันน่าจะยุติได้ เช่นเดียวกับคดีทำร้ายร่างกาย เมื่อแพทย์ แจ้งผลการตรวจร่างกายมาแล้วว่าผู้เสียหายบาดเจ็บเล็กน้อย สามารถรักษาตัวได้ภายใน 7 วัน พนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้ ขณะนี้กำลังหาทางออกที่ทำให้ทุกฝ่ายพอใจ เพื่อเรื่องราวจะได้ยุติลงด้วยดี
วันเดียวกัน พ.อ.ศักดิ์ชัยเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่อยากออกมาพูดเพราะกลัวโรงเรียนเสียชื่อเสียง
และกลัวว่าบุตรสาวชื่อน้องพลอยจะไม่ปลอดภัย แต่เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเด็กในโรงเรียนตั้งตัวเป็นมาเฟีย ทำร้ายเด็กคนอื่นที่ไม่พอใจ และถ่ายคลิปวีดิโอส่งต่อให้เกิดความหวาดกลัว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังทำฟัน มีผู้ปกครองของเพื่อนบุตรสาว โทรศัพท์มาว่าน้องพลอยถูกทำร้าย จึงไปที่โรงเรียน เมื่อพบบุตรสาว ก็พบนักเรียนหญิงคู่กรณี กำลังเอะอะโวยวาย จึงถามบุตรสาวว่า ใช่คนนี้หรือไม่ พร้อมเอามือไปแตะบ่านักเรียนหญิงคนดังกล่าว แต่บุตรสาวบอกว่าไม่ใช่ ขณะที่นักเรียนหญิงคนนั้นแสดงความไม่พอใจสะบัดมือตน พร้อมใช้เท้าถีบโดนหน้าขาและพูดว่า “ไม่ต้องมาเสือก”
พ.อ.ศักดิ์ชัยกล่าวต่อว่า จากนั้นนายณัฐซึ่งเป็นอาจารย์ได้วิ่งเข้ามา พร้อมตะโกนกล่าวหาว่า ตนทำร้ายร่างกายเด็ก
ด้วยความโมโหจึงพูดว่าไม่รู้หรือว่าตนเป็นใคร เป็นผู้ปกครองของเด็กที่ถูกทำร้าย จากนั้นมีอาจารย์หญิงอีก 2 คน เข้ามาต่อว่าและกล่าวหาว่าตนเมา “ผมขอยืนยันว่าไม่ได้เมา จากนั้นผมพาบุตรสาวไปโรงพยาบาลและเข้าแจ้งความ พร้อมแจ้งความอาจารย์ ทั้ง 3 ที่หมิ่นประมาทผม อย่างไรก็ตาม ผมไม่ถือโทษและพร้อมจะถอนแจ้งความและประนีประนอม หากทั้ง 3 มาขอโทษ เรื่องนี้ผมได้รับความเสื่อมเสียมาก ต้นสังกัดก็ตั้งกรรมการสอบสวนทั้งที่ผมพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือบุตรสาว” พ.อ.ศักดิ์ชัยกล่าว