อีเสือสาวใจถึง บุกเดี่ยวชิงทองหนัก 45 บาท มูลค่าครึ่งล้าน
ขณะทำทีไปเลือกซื้อสร้อยทองเจ้าของร้านเผลอฉกคามือ วิ่งไปซิ่งรถจยย.หลบหนี แต่ไปไม่รอดพลเมืองดีเห็น ร่วมกับพวก 3 คน กำลังยก จยย.ที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุ ใส่ท้ายกระบะหนี เลยแจ้ง จนท.ตามรวบยกก๊วน รับสารภาพทำเป็นทีม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 พ.ย. ร.ต.อ.เสน่ห์ ปัญญาเรือง ร้อยเวร สภ.หันคา จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุชิงทองรูปพรรณ ที่ร้านคลังทองเยาวราช
ตั้งอยู่เลขที่ 131 หมู่ 1 ถนนจบวิถี ต.หันคา จึงพร้อมฝ่ายสืบสวน รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางเนตรนัดดา ลุณพัฒน์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้าน ยืนตัวสั่นตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น สอบสวนนางเนตรนัดดา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีลูกค้าเป็นหญิงสวมเสื้อคลุมสีขาวขี่รถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ สีน้ำเงินบรอนซ์ เลขทะเบียน กมม 975 สมุทรสาคร มาจอดที่หน้าร้าน แล้วเข้ามาทำทีจะขอซื้อสร้อยคอกับตนเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเฝ้าร้านได้ออกไปกินข้าว
อีเสือสาวเหิมบุกเข้าชิงทองไล่จับยกแก๊ง!
ขณะที่หญิงคนดังกล่าว ได้ขอดูสร้อยคอทองคำอยู่นั้น หญิงคนดังกล่าวได้ฉวยโอกาสคว้าเอาสร้อยคอทองคำที่ตนถืออยู่ 9 เส้น น้ำหนักรวม 45 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 500,000 บาท ไปต่อหน้าต่อตาตน
แล้ววิ่งไปขี่รถ จยย.ที่ติดเครื่องอยู่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็นรถ จยย.คันดังกล่าว ซึ่งมีผู้หญิง 1 คน และผู้ชาย 3 คน กำลังช่วยกันยกรถ จยย.ใส่ท้ายรถกระบะสีน้ำเงิน ยี่ห้ออีซูซุ เลขทะเบียน ลต 6401 กรุงเทพมหานคร ที่กำลังติดรอสัญญาณไฟอยู่ที่ 4 แยกไฟแดง ต.บ้านเชี่ยน เจ้าหน้าที่จึงรีบไปสกัดจับและสามารถจับกุมตัว นายสุรชัย วงค์ทองดี อายุ 30 ปี นางรุ่งทิพย์ จริตโสภา อายุ 32 ปี นายทองอยู่ ธรรมชาติ อายุ 38 ปี และนายประจิน เอี่ยมปั้น จากการตรวจค้นพบสร้อยคอทองคำ ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ 9 เส้น กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด พร้อมโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จึงเชิญตัวทั้งหมดมา สอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองดังกล่าวจริง
โดยที่นางรุ่งทิพย์ เป็นคนลงมือก่อเหตุทำทีไปเลือกซื้อทอง เมื่อสบจังหวะจึงชิงทองวิ่งหลบหนีแล้วขี่รถมาพบนายสุรชัย นายทองอยู่ และนายประจิน ที่นัดหมายมารอรับตนพร้อมนำรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุหลบหนี ต่อมา พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก่อนแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ทั้งสามคนแล้วควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป.