ศาลฎีกาจำคุก36ปี ป๋าเหลิม คดีโฉ่ซื้อกาม4ดญ.

ในที่สุดคดีกามฉาวที่บุคคลระดับรองประธานวุฒิสภา ถูกดำเนินคดีข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีถึง 4 คน ได้มาถึงบทสุดท้ายของขบวนการยุติธรรมแล้ว

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่นายเฉลิม พรหมเลิศ อายุ 72 ปี อดีตรองประธานวุฒิสภา และ อดีต ส.ว.สุราษฎรธานี ตกเป็นจำเลย ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 4 คน โดยนายเฉลิมอยู่ในชุดเสื้อซาฟารีสีเขียวอ่อน กางเกงขายาว สีกรมท่า ใบหน้าสดใส ต่างกับทุกครั้งที่มาศาลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่ามกลางความสนใจของผู้สนใจในคดีนี้
 

ศาลได้บรรยายสรุปว่า นายเฉลิมถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีศาลอาญาที่ศาลจังหวัดธัญบุรี คือพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร และความผิดต่อ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี

เหตุเกิดช่วงระหว่างวันที่ 24 พ.ย. 43 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 44 ต่อมาศาลจังหวัดธัญบุรี มีคำพิพากษาให้ลงโทษนายเฉลิม จำคุก 16 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามข้อกล่าวหา มีความผิดเพิ่มขึ้นอีก 4 กระทง ให้จำคุกอีกกระทงละ 5 ปี รวมเป็น 20 ปี เมื่อรวมโทษทั้งสิ้นแล้วให้จำคุก 36 ปี จำเลยยื่นฎีกา โดยศาลฎีกา ได้ตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ พิพากษาจำคุกจำเลย 36 ปี หลังจากสิ้นสุดคำพิพากษา นายเฉลิมที่ยืนสงบนิ่งถึงกับมีสีหน้าสลด จากนั้นเจ้าหน้าที่พาเดินคอตกออกทางประตูหลังเพื่อสู่ห้องควบคุมนักโทษเตรียมส่งตัวไปยังเรือนจำธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้น รถของเรือนจำได้มารับตัวนายเฉลิมส่งไปยังเรือนจำทันที
 

ทางด้านนางโอ๋ (นามสมมติ) แม่ของ 1 ใน 4 เด็กที่ตกเป็นเหยื่อกาม กล่าวว่า

ตอนแรกรู้สึกวิตกกังวลมาก เมื่อเห็นหน้านายเฉลิม ที่เดินทางมาด้วยใบหน้าอันสดใส จนไม่กล้าลงจากรถไปฟังคำพิพากษา แต่หลังจากทราบว่าศาลได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาตัดสินจำคุกจำเลย 36 ปี รู้สึกพอใจ และถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่จะคิดกระทำผิดต่อไป ส่วนนายจำเริญ วราภรณ์ ทนายจำเลย กล่าวว่า น้อมรับคำตัดสินของศาลฎีกา ต่อไปจะต้องไปศึกษากฎหมายก่อนว่าจะถวายฎีกาขอลดหย่อนโทษให้กับนายเฉลิมหรือไม่


สำหรับคดีกามฉาวรายนี้เริ่มจากเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2544 ตำรวจ สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

รับแจ้งผู้ปกครองเด็กหญิงนักเรียนชั้น ม.2 ได้หายตัวไป หลังไปเรียนหนังสือตามปกติ จากนั้นอีก 2 วันผู้ปกครองกับลูกสาวที่หายตัวไป ได้เข้าพบตำรวจโดยบอกว่า ลูกสาวหลบหนีไปเพราะกลัวพ่อทำโทษเรื่องที่ไปค้าประเวณีกับชายสูงอายุคนหนึ่งชื่อว่า “ป๋าเหลิม” โดยมีเพื่อนนักเรียนรุ่นพี่เป็นคนชักชวน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.43 ที่โรงแรมผกาอินน์ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ยังมีเพื่อนนักเรียนหญิงอีก 3 คน ถูกชักชวนให้ร่วมด้วย


ภายหลังการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนทราบว่า “ป๋าเหลิม” ที่ถูกอ้างชื่อนั้นคือนายเฉลิม พรหมเลิศ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และ ส.ว.สุราษฎร์ธานี (ขณะนั้น)

ขณะเดียวกันนายมนตรี สินทวิชัย ส.ว.สมุทรสงคราม (ขณะนั้น) ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของเด็ก เข้ามาช่วยเหลือตามจี้เรื่องคดี เนื่องจากมีกลุ่มลึกลับโทรศัพท์ข่มขู่ผู้ปกครองและตำรวจที่ทำคดี อีกทั้ง ส.ว.กลุ่มหนึ่งออกมาเคลื่อนไหวปกป้องนายเฉลิม อ้างเป็นการแบล็กเมล์ทางการเมือง ต่อมาวันที่ 23 ม.ค. 44 นายเฉลิม พร้อมทนายความเข้ามอบตัวปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมเปิดแถลงทั้งน้ำตาและยอมลาออกจากตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาเพราะไม่สามารถต้านแรงกดดันได้ แต่ยังไม่ยอมลาออกจาก ส.ว.โดยอ้างว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้งซ่อมเพราะเปลืองงบประมาณ ขณะเดียวกันก็มีเหยื่อสาวอีกรายโผล่ออกมาแฉว่าเคยร่วมหลับนอนกับนายเฉลิม ประกอบกับภายหลังนายเฉลิมถูกกดดันหนักจนต้องยอมลาออกจาก ส.ว.ในที่สุด
 

กระทั่งวันที่ 21 มี.ค. 44 อัยการมีคำสั่งฟ้องนายเฉลิมทั้งหมด 27 ข้อหา จากนั้นศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 45 ให้จำคุกจำเลย 16 ปี

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นชอบในการตัดสินของศาลชั้นต้นที่ให้จำคุก 16 ปี เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 48 พร้อมแก้คำพิพากษา ให้เพิ่มโทษจำเลยในความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร รวม 4 กระทง กระทงละ 5 ปี ให้จำคุกเป็นเวลา 20 ปี รวมลงโทษจำคุกจำเลยทั้งหมด 36 ปี และในที่สุดการต่อสู้คดีก็มาถึงศาลฎีกา จนมีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุกจำเลย 36 ปี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์