คดีมรดก300ล้านไม่จบ ศักดิ์ชัย- ณ ป้อมเพชร

สืบเนื่องจากกรณีที่นายธีรวัต ณ ป้อมเพชร นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีอิสระ บุตรชายนายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร อดีตเอกอัครราชทูตประจำหลายประเทศในภาคพื้นยุโรป
 
เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งให้ดำเนิน คดีนายศักดิ์ชัย กาย บก.เจ้าของนิตยสาร “ลิปส์” โดยขอให้ศาลมีคำสั่งทำลายพินัยกรรมที่นายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร ผู้เป็นบิดายกมรดกที่ดินและอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ ให้แก่นายศักดิ์ชัย มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากเชื่อว่าเป็นพินัยกรรมปลอม
 

ความคืบหน้าคดีทายาทอดีตเอกอัครราชทูตไทยฟ้องร้อง บก.เจ้าของนิตยสารชื่อดังปลอมพินัยกรรม ที่ศาลแพ่ง เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พ.ย.

ศาลนัดพร้อมคู่ความในคดีที่นายธีรวัต ณ ป้อมเพชร อายุ 52 ปี เป็นโจทก์ฟ้องนายศักดิ์ชัย กาย อายุ 47 ปี เป็นจำเลยฐานละเมิด ให้เพิกถอนนิติกรรมและเรียกเงิน กรณีมีการอ้างว่า พินัยกรรมของบิดาโจทก์ถูกกลฉ้อฉลทำให้ ทายาทเสียประโยชน์ นัดนี้ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อไกล่เกลี่ย โจทก์เดินทางมาศาลพร้อมทีมทนายความเกือบ 10 คน ฝ่ายจำเลยที่เดินทางมาด้วยท่าทางเคร่งขรึมก็มีผู้ติดตามเกือบ 10 คนเช่นกัน

ต่อมาศาลให้ตัวคู่ความและทนายความไปยังห้องไกล่เกลี่ย โดยห้ามบุคคลอื่นเข้าฟัง

ทั้งนี้ในการไกล่เกลี่ย ฝ่ายโจทก์แถลงยืนยันเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย ขณะที่ฝ่ายจำเลยปฏิเสธสิทธิของโจทก์อย่างสิ้นเชิง ศาลเห็นว่า เมื่อคู่ความยังไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ในเบื้องต้นจึงนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 6 ก.พ. 2551 และจะให้มีการไกล่เกลี่ยกันทุกนัดที่มีการสืบพยาน
 

หลังการพิจารณา นายธีรวัต ณ ป้อมเพชร มอบให้ทนายความเป็นผู้สัมภาษณ์แทน ทนายความของนายธีรวัตกล่าวว่า

ที่นายธีรวัตไม่พูดเอง เพราะศาลสั่งห้าม และคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องออกจากห้องพิจารณา สำหรับการไกล่เกลี่ยยังไม่อาจตกลงกันได้ ฝ่ายโจทก์ไม่ได้ตั้งเงื่อนไขอะไร เพียงแต่ขอให้เขาปฏิบัติตามสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น จำเลยก็ไม่ยอมรับ อ้างว่าเขามีสิทธิตามมนุษยธรรม ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่จำเลยอ้างสิทธิตามมนุษยธรรมหมายความว่าอย่างไร ทนายความโจทก์กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบ เขาอ้างว่าเขารู้จักกับบิดาโจทก์ และมีสิทธิในทรัพย์สินตามพินัยกรรม ตามหลักมนุษยธรรม อย่างไร ก็ตาม ตอนนี้โจทก์เดือดร้อน เพราะปีที่ผ่านมาต้องสูญเสียประโยชน์ในทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ และอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น ซึ่งเช่าอยู่ มูลค่า 300 กว่าล้านบาท ตอนนี้โจทก์ต้องแบกภาระดอกเบี้ยทุกวัน ขอให้จำเลยคืนเงิน 300 ล้านบาทมาแต่โดยดี
 

ด้านนายศักดิ์ชัย กาย หลังออกจากห้องไกล่เกลี่ย มีทนายความประกบและพาขึ้นรถแวน 7 ที่นั่งเดินทางกลับไปทันที

สำหรับคดีนี้ฝ่ายโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2548 นายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร บิดาโจทก์ อายุ 90 ปีป่วยรักษาตัวที่ รพ.สมิติเวช จำเลยกับพวกทำพินัยกรรม มีข้อความให้ยกเลิกพินัยกรรมฉบับก่อนๆและเขียนใหม่ ว่าให้ยกทรัพย์สินแก่จำเลย ได้แก่ที่ดิน 3 ไร่ พร้อมอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ในย่านทุ่งวัดดอน เขตยานนาวา ห้องชุดในคอนโดมิเนียมริมทะเล ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท เมื่อโจทก์ทราบเรื่องจึงเกิดความสงสัยว่า บุคคลต่างๆที่มีชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมเป็นใคร ทั้งที่ไม่มีแพทย์ยืนยันว่าเจ้ามรดกคือบิดา เคยทำพินัยกรรมดังกล่าว ลายมือที่ลงก็ไม่ใช่ลายมือจริงของบิดา จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนดังกล่าว