ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก อดีตรองประธานวุฒิสภา 'เฉลิม พรหมเลิศ' รวม 36 ปี คดีพรากผู้เยาว์
ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการร่วมกับพ่อ-แม่ของเด็กหญิงเหยื่อกามหลายราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเฉลิม พรหมเลิศ อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.สุราษฎร์ธานี โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 36 ปีสำหรับคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 ว่า จำเลยกระทำผิดจริง ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ต่างกรรมต่างวาระ ใช้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกจำเลย 4 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 16 ปี ส่วนความผิดอื่นให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาจำคุกอดีตรองปธ.สว. เฉลิม 36ปี
ขณะที่ นายเฉลิม ได้ยื่นอุทธรณ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง
และเมื่อต้นปี 2548 ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาแก้ เพิ่มโทษ จำเลยในความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา-มารดาเพื่อการอนาจาร รวม 4 กระทง กระทงละ 5 ปี ให้จำคุกเป็นเวลา 20 ปี รวมลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 36 ปี หลังประชุมปรึกษาคณะอัยการหารือโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดจริงตามฟ้อง
จากนั้น นายเฉลิม ได้ยื่นฎีกา ยันความบริสุทธ์ อัยการใช้เวลาพิจารณาสำนวนอย่างละเอียด ก่อนมีคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันนี้
สําหรับคดีนายเฉลิม ถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์คดีหนึ่งในวงการยุติธรรม และการเมืองไทย ทั้งยังส่งผลกระทบในวงกว้าง แม้แต่ชื่อเสียงของวุฒิสภาชุดมาจากการเลือกตั้งครั้งแรกก็แทบล่มสลาย เมื่อปกป้องพวกเดียวกันเอง โดยไม่คำนึงถึงสิ่งถูกต้องใดๆ นายเฉลิมถูกกล่าวหาคดีทางเพศนี้เมื่อต้นปี 2544 ก่อนเดินทางเข้ามอบตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และด้วยเอกสิทธิ์สมัยเปิดประชุมสภาฯคุ้มครองตัวเอง ทำให้กระบวนการยุติธรรมสะดุด ในขณะที่กลุ่มส.ว.บางพวกก็ปกป้อง ด้วยการลงคะแนนเสียงไม่ยอมส่งตัวนายเฉลิมให้ฝ่ายบ้านเมืองดำเนินคดี จนเสื่อมเสียและถูกด่าไปทั้งประเทศ