คนร้ายขี่จักรยานยนต์ตามประกอบพี่เขย "จำรูญ" อาการปางตายขณะกลับจากดูแลสวนยางพารา ยิงญาติว่าที่ผู้สมัคร สส.หวังต้านนโยบายรัฐ
"จำรูญ" มั่นใจคนร้าย ต้องการต้านนโยบายสมานฉันท์รัฐ และไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง จับสมาชิกอาร์เคเคได้อีก 1 คน เหตุโจรใต้ยิงพี่เขย พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม ประธานมูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ และเป็นอดีตรองผู้บังคับบการตำรวจตะเวนชายแดนภาค 4 จ.สงขลา ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน
พ.ต.ต.เรืองศักดิ์ บัวแดง สว.เวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บบนถนนรือเสาะ - ศรีสาคร บริเวณบ้านยาแลเบาะ หมู่ 5 ต.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จุมพล เปรมศิริ ผกก.สภ.รือเสาะ ร.อ.อภิวุฒิ จุลกลับ ผบ.ร้อย หมู่ 1 ฉก.นราธิวาส 39 และกำลังตำรวจ-ทหาร เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบนายตูแวมาฮา เงาะ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/17 ม.10 ต.รือเสาะ
พี่เขยของ พล.ต.ต.จำรูญ ถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 ม.ม. ที่ต้นคอทะลุด้านหลัง 1 นัด ใกล้ๆ กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ เลิฟ ทะเบียน กบค-35 นราธิวาส ล้มอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลรือเสาะ จากนั้นได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ 1 ปลอก พร้อมด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่อีก 6 ปลอก
สอบสวนทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุ นายตูแวมาฮา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยพกปืนขนาด 9 ม.ม. ไปด้วย 1 กระบอก เพื่อไปดูแลสวนยางพาราหลังจากทราบข่าวว่าในพื้นที่ อ.รือเสาะ มีต้นยางพาราของชาวบ้านถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีบุกทำลาย ขณะขี่รถกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักปืนขนาด 11 ม.ม.ยิงใส่นายตูแวมาฮา แล้วขี่รถหนีไป
พล.ต.ต.จำรูญ กล่าวถึงเหตุคนร้ายยิงพี่เขยตัวเองว่า
เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาพี่เขย ไม่เคยขัดแย้งกับใครและเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มุ่งหน้าประกอบอาชีพด้วยการทำสวนยางเพื่อเลี้ยงคนในครอบครัวจึงไม่น่าจะมีประเด็นอื่น "เป็นไปได้ยากที่กลุ่มคนร้ายจะฉวยโอกาสที่ผมเสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส. ในนามของพรรคมัชฌิมาประชาธิไตย จ.ยะลา เข้ามาก่อเหตุกับพี่เขยในครั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้อยู่ในเขตการลงสมัครของผม แต่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายต้องการใช้ช่วงเวลาแห่งการเลือกตั้งเข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นกับภาครัฐมากกว่า เนื่องจากเขาไม่ต้องการส่งเสริมและสนองตอบต่อนโยบบายสมานฉันท์ของรัฐบาล ที่สำคัญคือเขาไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งทราบว่าเมื่อวันที่ 10 พ.ย.50 ที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายได้เข้าก่อเหตุกับญาติของนายเจะอามิง โตะตาหยง ว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคประชาธิปัตย์มาแล้วเช่นกัน" พล.ต.ต.จำรูญ กล่าว
ทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูงว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต้องการก่อเหตุเพื่อสร้างความวุ่นวายและสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อต้องการทำลายระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย จนนำไปสู่แนวคิดการแบ่งแยกดินแดน ด้วยเหตุผลดังกล่าวภาครัฐจึงต้องวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเข้มงวดในระยะนี้
จับสมาชิกอาร์เคเคได้ 1 คน มีส่วนคดียิง-เผา2ทหาร
เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พ.ท.ปฐวี ศรีสุข ผบ.ฉก.39 กองพันทหารม้าที่ 138 ได้สั่งการให้ ร.ท.มานพ พันสะโม ผบ.ร้อย กองพันทหารม้าที่ 4 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส นำกำลัง 50 นาย เข้าจับกุม นายซีระฮารี ยามาดีบุ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/2 ม.1 บ้านปูโป ต.สามัคคี อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมอาร์เคเค ที่ร่วมก่อเหตุยิงแล้วเผา ส.อ.จักรพงษ์ โพนเงิน อายุ 37 ปีและ อาสาสมัครทหารพรานธวัชชัย มณีแสง อายุ 31 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4404 กรมทหารพรานที่ 44 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โจรใต้ตัดต้นยางและผลไม้เสียหายนับ100ไร่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.โชต ชวาลวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ต.เรืองศักดิ์ บัวแดง พนักงานสอบสวนและ ร.อ.อภิวุฒิ จุลกลับ ผบ.ร้อย ร้อย ม.1 ฉก.นราธิวาส 39 ได้สนธิกำลังตำรวจ ทหาร 60 นาย เข้าไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้มีด ขวานและพร้า ตัดทำลายต้นยางพาราและต้นผลไม้ ของนายชู พรมจันทร์ นางจิตร โตแสง นางก้อมหิ้น พวงราช นางสมศรี แซ่ฮ่อน นายจรุง นวลมี อายุ 65 ปี และนางมัลลิกา กาญจนะ ซึ่งเป็นชาวบ้านนาโอน ม.8 ต.รือเสาะ ผลการตรวจสอบพบ ต้นยางพาราถูกตัดโค่นและฟันที่บริเวณเปลือกยางพารา นอกจากนี้คนร้ายยังได้ใช้มีด ขวานและพร้าฟันต้นมังคุคและลองกอง ได้รับความเสียหายกว่า 600 ต้น ในเนื้อที่กว่า 100 ไร่ นอกจากนี้คนร้ายยังเผาทำลายขนำ อีก 10 หลัง
ส่วนที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 06.15 น. วันเดียวกัน
เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ดักซุ่มยิงตำรวจ สภ.บันนังสตา ขณะนำกำลังออกตรวจพื้นที่ เป็นเหตุให้มีการปะทะกันขึ้นแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในเวลาต่อมากำลังตำรวจ จึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุนปิดล้อมบ้านเลขที่ 3 บ้านเงาะกาโปร์ ต.บันนังสตา ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนร้ายใช้ดักซุ่มยิงแต่ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด คาดว่าหลังเกิดเหตุยิงปะทะกันแล้วคนร้ายได้อาศัยความชำนาญเส้นทางหลบหนีไปก่อนหน้านี้