รวบหนุ่มลอบผลิตเสื้อเกราะขายมาเฟีย - มือปืน
รวบหนุ่มชัยภูมิลอบผลิตเสื้อเกราะขายมาเฟีย-มือปืน ยึดของกลางร่วม 30 ตัว พร้อมปืนเอ็ม 16 สารภาพทำงานบริษัทเสื้อเกราะจนชำนาญ ก่อนลาออกมาผลิตเอง ด้านเจ้าของเสื้อเกราะบางระจันเผย ผลสำรวจพบเสื้อเกราะตำรวจหมดอายุกว่าหมื่นตัว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 เมษายน พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. แถลงผลการจับกุมคนร้ายลักลอบค้าเสื้อเกราะและอาวุธสงคราม โดย พ.ต.ต.ณรงค์เดช มูลศาสตรสาธร สว.สส.สน.ดอนเมือง ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายชาญชัย คันธโกวิท อายุ 38 ปี ชาวชัยภูมิ พร้อมเสื้อเกราะกันกระสุน 21 ตัว อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. 17 นัด และอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนอีก 38 นัด โดยจับกุมได้บริเวณหน้าหมู่บ้านบัณฑิตโฮม ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. จึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีซึ่งยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะกันกระสุน) โดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบทราบว่านายชาญชัยลักลอบผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนนำไปจำหน่ายให้กับบุคคล หรือหน่วยงานราชการโดยการปลอมทะเบียนแหล่งที่มาของเสื้อเกราะดังกล่าว ทำให้บริษัทผู้ผลิตได้รับความเสียหาย จึงวางแผนจับกุมกระทั่งจับกุมตัวได้ขณะนำเสื้อเกราะส่งมอบลูกค้า โดยรับสารภาพว่า ยังมีปืนเอ็ม 16 และกระสุน ซุกซ่อนอยู่ที่บ้านพักย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงนำตัวไปตรวจยึด ทั้งนี้ นายชาญชัยเคยทำงานที่บริษัทผลิตเสื้อเกราะแห่งหนึ่ง เมื่อเกิดความชำนาญจึงลาออกมาผลิตขายให้ข้าราชการตำรวจ ทหาร และบางครั้งนำไปขายให้กับผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง
ด้าน พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ ผู้บริหารบริษัท พรีซิพาร์ท จำกัด และหัวหน้านักประดิษฐ์อุปกรณ์นิรภัย เจ้าของโครงการ "เสื้อเกราะบางระจัน" กล่าวว่า เสื้อเกราะมีทั้งแบบเกราะอ่อนและเกราะแข็ง วิธีการเลือกต้องดูที่มาที่ไปของเสื้อเกราะแต่ละตัวว่าบริษัทใดเป็นผู้ผลิตเพื่อจะได้ตรวจสอบได้ว่าใช้วัสดุใดทำ รวมทั้งต้องตรวจสอบอายุการใช้งานด้วยโดยเฉพาะเกราะอ่อนมีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ที่ผ่านมาเคยสำรวจเสื้อเกราะของตำรวจพบว่าหมดอายุการใช้แล้วกว่าหมื่นตัว