สาวเมาตั้งแต่ดึกยันเช้าขับรถแจ๊ซเสยกำแพงกั้นขอบทาง ละลิ่วลงไปในบึงมักกะสัน
ยังโชคดีช่วงเกิดเหตุเปิดหน้าต่างเอาไว้ ตะเกียกตะกายหนีออกมายืนบนหลังคาตะโกนร้องให้คนช่วย หน่วยกู้ภัยเข้าไปลากตัวเข้าฝั่งสุดทุลักทุเล มีสภาพเมาแทบไม่ได้สติ แต่ยังพอพูดจาจับใจความได้ว่าไปกินเหล้ากับเพื่อนชายตั้งแต่ดึกยันเช้า ขากลับเกิดมีปากเสียงกันเลยไล่ลงกลางทาง ก่อนเหยียบคันเร่งกระชากรถออกไปด้วยความโมโห จนรถพุ่งปีนกำแพงตกลงไปในคลอง
สาวเมาขับรถตกบึงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.10 น.วันที่ 5 พ.ย.
ร.ต.ท.สำราญ เวียงนนท์ ร้อยเวร สน.ดินแดง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งลงไปภายในคลองมักกะสัน บริเวณทางกลับรถมุ่งหน้าแยกพญาไทตัดพระรามเก้า บนถนนเลียบคลองมักกะสัน แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำรถยกรุดไปตรวจสอบภายในบึงมักกะสัน พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ศธ-8634 กทม.จมน้ำอยู่เห็นแต่เพียงหลังคา ซึ่งมีหญิงสาวสวมเสื้อสายเดี่ยวสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ยืนร้องตะโกนโหวกเหวกขอความช่วยเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำเชือกลงไปผูกไว้ที่เอวหญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนช่วยกันดึงเชือกนำตัวขึ้นมาได้ท่ามกลางไทยมุงจำนวนมาก ก่อนประสานรถเครนเพื่อนำรถมายกรถขึ้นจากน้ำ
ยัวะเพื่อนชาย-สาวซิ่งเก๋งจมบึงมักกะสัน
สอบถามหญิงสาวคนดังกล่าวทราบชื่อคือ น.ส.พนิดา บุญทัน อายุ 29 ปี
พักอยู่ห้องพักเลขที่ 314 จันทร์ดาราแมนชั่น ภายในซอยลาดพร้าว 80 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งอยู่ในสภาพตกใจหน้าซีดเผือด เนื้อตัวเปียกด้วยน้ำ มีบาดแผลที่ใบหน้าเล็กน้อย โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าน.ส.พนิดา พูดจาไม่รู้เรื่องมีอาการคล้ายกับคนเมาสุราพูดจาวกไปวนมาตลอด พอจับใจความได้ว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถยนต์มาจากย่านมักกะสัน โดยมีเพื่อนชายนั่งมาด้วยชื่อนายต๋อม ไม่ทราบนามสกุล
น.ส.พนิดา ให้การอีกว่าเมื่อคืนนายต๋อม โทรศัพท์มาหาบอกให้ตนช่วยเนื่องจากเพิ่งอกหัก จึงนัดออกมาคุยโดยไปดื่มเหล้าด้วยกัน
จนช่วงเช้าก็เดินทางกลับที่พัก แต่เมื่อขับรถมาถึงก่อนที่เกิดเหตุเล็กน้อย เกิดมีปากเสียงกับนายต๋อม จึงจอดรถไล่ลงไป จากนั้นจึงออกรถกระชากอย่างแรงเพราะไม่พอใจ ปรากฏว่ารถเสียหลักชนกำแพงกั้นยูเทิร์น ก่อนจะพุ่งลงไปภายในบึง แต่ยังโชคดีเพราะจังหวะนั้นเปิดกระจกอยู่พอดี จึงตะเกียกตะกายหนีออกมายืนบนหลังคาร้องตะโกนให้คนช่วยเหลือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวน.ส.พนิดาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเดชา พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท จากนั้นเมื่อน.ส.พนิดาพูดจารู้เรื่องก็จะเชิญตัวมาสอบสวนอีกครั้ง