เหตุวุ่นวายครั้งล่าสุดในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 พ.ย.
พ.ต.อ.อโณทัย บำรุงพงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานที่ปรึกษากฎหมาย ระดับ 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน ให้ดำเนินคดี ด.ต. นริศ รักเสน่ห์ เจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ หน้าห้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และให้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมก่อให้เกิดการทำร้ายร่างกายด้วย เหตุเกิดภายในสำนักงาน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้นที่ 26 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนประชาชื่น แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ระหว่างการสอบปากคำมีการนำเครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์มาให้ พ.ต.อ.อโณทัยเป่าถึง 3 ครั้งด้วย แต่ผลออกมาไม่มีแอลกอฮอล์แต่อย่างใด
หลังใช้เวลาให้ปากคำนาน 2 ชั่วโมงครึ่ง
พ.ต.อ. อโณทัยออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากมีการตรวจจับการสำแดงทุจริตของบริษัทฟิลิปมอริส (ประเทศไทย) กับบริษัทเลย์แมน จำกัด จนทำให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ อดีต ผบ.สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ และ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อดีต ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ ชุดสืบสวน ถูกย้ายออกนอกหน่วย ทั้งๆที่เกือบจะได้ตัวผู้กระทำความผิดอยู่แล้ว ทำให้คดีเงียบหายไป จนกระทั่งวันนี้ ตนไปทราบเรื่องการทุจริตในบริษัทซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับการสำแดงภาษีเท็จ โดยทราบว่า สำนวนตัวจริงของเรื่องนี้อยู่ที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
พ.ต.อ.อโณทัยกล่าวต่อว่า ในช่วงเวลา 11.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ได้ขึ้นไปพบนายธาริตเพื่อขอสำนวนดังกล่าวไปตรวจสอบ
แต่นายธาริตไม่ยอมให้ ตนจึงไปหาจากพนักงานสอบสวนคนอื่นจนได้ แต่ยังอยากได้ตัวจริงอยู่ ตัดสินใจขึ้นไปพูดคุยกับนายธาริตอีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ปรากฏว่ามี ด.ต.นริส รักเสน่ห์ เจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ หน้าห้องนายธาริต ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ นายธาริตได้กล่าวว่า อย่ามาวุ่นวาย ทำตัวยุ่ง เดี๋ยวจะเสียทั้งกรม ตนบอกไปว่า ไม่ต้องมายุ่ง กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทำให้ ด.ต.นริศเกิดความโมโห ชกที่ใบหน้าตน 1 ครั้ง แต่ไม่ถูก เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ ตนได้หันหลังเดินออกจากสำนักงานนายธาริตทันที แต่กลับถูก ด.ต.นริศตามมาถีบเข้าที่กลางหลังจนล้ม ศีรษะกระแทกกับพื้นห้องจนบวม กระทั่งมีคนมาห้ามปราม ตนไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบางโพ ก่อนมาแจ้งความดำเนินคดี
พ.ต.อ.อโณทัยกล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องที่ตนจะเข้าไปตรวจสอบ เพราะผู้ใหญ่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปกปิดข้อมูล นำญาติเข้าไปเป็นทนายให้กับบริษัทต้องสงสัย
หากตนเข้าไปตรวจสอบจะมีผู้ใหญ่หลายคนได้รับความเสื่อมเสีย เรื่องนี้ตนสอบสวนมาตลอด ส่วนที่ว่าตนทำไปเพราะความเมา ขอให้ดูว่าเมาหรือไม่ เพราะสุราไม่เคยดื่ม เจ้าหน้าที่นำเครื่องเป่ามาวัดผลก็ออกเป็นศูนย์ สำหรับเรื่องทุจริตต่างๆ ตนได้รายงานไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผบ.ตร.เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทั้ง 3 คน ที่ถูกย้ายออกนอกหน่วยด้วย