ศึกชิงนางในผับ ดวลปืนดับ ประลองกันหน้าร้าน

สนั่นเมืองพัทยา 2 โจ๋ดวลปืนอย่างกับในหนังหน้าผับดัง "เดอะคอทเทจผับ" ผลตาย 1 เจ็บ 2 ต่อหน้าต่อตานักท่องราตรีที่หนีลูกกระสุนกันอลหม่าน แฉก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับคู่อริเคยเป็นเพื่อนรักกัน แต่ตอนหลังมาผิดใจกันเรื่องผู้หญิง ก่อนเกิดเหตุโคจรมาพบกันในผับ แล้วเกิดท้าทายให้ออกไปดวลปืนข้างนอก พอออกไปได้ผู้ตายชักปืนกล็อก 9 ม.ม. ยิงใส่ก่อน แต่กระสุนหมดเลยถูกคู่อริยิงสวนเข้ากกหูสิ้นใจตายทันที ส่วนคู่กรณีก็โดนยิงบาดเจ็บเช่นกัน ตร.ตามไปอายัดตัวที่ร.พ. 1 ในนั้นเป็นผู้หญิงอาการสาหัส เตรียมสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 4 พ.ย.

พ.ต.ท.อนันต์ ธรรมชัยกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุวัยรุ่นยิงกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถร้านเดอะคอทเทจผับ ตั้งอยู่เลขที่ 15/16 ถนนพัทยาสาย 3 หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศิริชัย ครูประเสริฐวัฒนา รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย สวป. พ.ต.ต.ไชยกฤษณ์ ทองอินทร์ สว.สส. พ.ต.ต.สันติ ชูเชิด สว.สป. นำกำลังชุดสืบสวน แพทย์เวรร.พ.บางละมุง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่นนักเที่ยวทั้งชาย-หญิง ต่างตกตะลึงยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก

ที่ลานจอดรถพบศพนายภูมิมินทร์ มีศิริ หรือฉายา "มิน ซอยเนิน" อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/49 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ในสภาพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่ใต้หูซ้าย 1 นัด ทะลุออกแก้มขวา ที่มือข้างขวากำอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 ม.ม. ไว้ในสภาพกระสุนถูกยิงไปจนหมด ค้นในตัวพบซองปืนเหน็บอยู่ข้างเอวขวา เงินสดจำนวน 9,300 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียร์ 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนพื้นอีกจำนวน 7 ปลอก ตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ที่พื้นห่างจากศพประมาณ 10 เมตร อีกจำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาได้มีนายไพโรจน์ มีศิริ อายุ 41 ปี และนางขวัญทอง มีศิริ อายุ 47 ปี พ่อและแม่ของผู้ตาย เดินทางมาดูศพถึงกับตกใจช็อกและร้องไห้ปานจะขาดใจ

สร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่ยืนมุงอยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรอีกครั้ง และระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ขับผ่านมาท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกตรวจสอบ พบอาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 ม.ม. พร้อมแม็กกาซีน 2 แม็ก และกระสุนปืน 10 นัด ซึ่งคนขับรถและเจ้าของปืน ชื่อนายกัชรพันธ์ นกหงษ์ หรืออาร์ท อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ ม.9 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้การว่ากำลังขับรถพาเพื่อนๆ กลับบ้านพัก หลังไปเที่ยวที่ดิฟเฟอร์ผับ ซึ่งอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้องและพกมาเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ตำรวจจึงคุมตัวไปทำประวัติก่อนจะปล่อยตัวไป

จากการสอบสวนพยานกลุ่มนักเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การตรงกันว่า

ก่อนเกิดเหตุนายภูมิมินทร์ หรือ มิน ซอยเนิน ผู้ตาย พร้อมกับเพื่อนนับ 10 คน ได้เดินทางเข้าไปเที่ยวในผับ"เดอะคอทเทจ" จากนั้นได้เกิดมีปากเสียงกับวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง กระทั่งเกิดการท้าทายให้ออกไปดวลปืนกันที่ลานจอดรถนอกร้าน จากนั้นต่างฝ่ายต่างระเบิดกระสุนเข้าใส่กันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย หลังเสียงปืนสงบลงพบว่านายภูมิมินทร์ ถูกยิงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ ส่วนกลุ่มคู่อริถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน จึงรีบพากันขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน เซฟิโร่ สีบรอนซ์ทอง และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางพัทยาเหนือ

ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งจากร.พ.กรุงเทพพัทยา ว่า

มีคนถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน เข้ารับการรักษา เป็นชายและหญิงขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน ชบ 137 กทม. สภาพมีรูกระสุนปืนจนพรุนไปทั้งคัน ภายในรถมีรอยเลือดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบทราบชื่อคนเจ็บคือนายอิทธิพันธ์ ศึกเจริญ อายุ 23 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด กระสุนฝังใน อีกคนชื่อน.ส.สุดารัตน์ พักเย็นใจ อายุ 20 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด อาการสาหัส เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การไม่ได้เจ้าหน้าที่จึงอายัดตัวผู้บาดเจ็บทั้งสองคนไว้เพื่อทำการสอบสวน

พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส. เปิดเผยว่า

จากการสอบสวน น.ส.เจน (นามสมมติ) พยานปากสำคัญ ซึ่งเป็นแฟนคนปัจจุบันของนายภูมิมินทร์ ผู้ตายทราบว่า ชนวนเหตุของการเปิดศึกดวลปืนกันในครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว โดยก่อนหน้านี้นายภูมิมินทร์กับนายอิทธิพันธ์เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่เกิดผิดใจกันเรื่องที่น.ส.เจนซึ่งอดีตเคยคบหากับนายอิทธิพันธ์ แต่ภายหลังหันมาคบกับนายภูมิมินทร์ เลยทำให้ทั้งคู่แคลงใจจนประกาศเป็นศัตรูกัน จนวันเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายได้มาเที่ยวที่เดียวกันจึงเกิดทะเลาะวิวาทและท้าทายให้ออกไปยิงกันที่ลานจอดรถ

โดยนายภูมิมินทร์ ได้เปิดฉากยิงใส่นายอิทธิพันธ์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในรถกับน.ส.สุดารัตน์ จนกระสุนถูกทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ

แต่ต่อมากระสุนหมด นายภูมิมินทร์จึงพยายามวิ่งหนี ระหว่างนั้นนายอิทธิพันธ์ตั้งหลักได้จึงลงจากรถแล้วตามไล่ยิงจนนายภูมิมินทร์เสียชีวิตคาที่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สั่งอายัดตัวไว้แล้วพร้อมกับรอให้อาการดีขึ้นเพื่อทำการสอบสวนหาข้อสรุปของเรื่องนี้ต่อไป