จับแท็กซี่บัดซบ ลักหลับ แหม่มฟินแลนด์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2549 12:50 น.
ตำรวจ สน.ลุมพินี จับแท็กซี่หื่น แอบข่มขืนแหม่มชาวฟินแลนด์ขณะเมาะสุราและหลับในแท็กซี่ ผู้ก่อเหตุอ้างผู้เสียหายใส่กระโปรงสั้นเกิดอารมณ์ทางเพศ และคิดว่ายินยอมเนื่องจากเหยื่อไม่ขัดขืน
วันนี้ (25 เม.ย.) เวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย สว.สส.สน.ลุมพินี ร.ต.อ.ณัฐจักร จันลา รอง สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันจับกุมตัว นายประสิทธิ์ ปรีดากูล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 1 ต.หนองปลง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.745/2549 ลงวันที่ 24 เม.ย.2549 ในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวัน 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.30 น. นางเฮเลน (นามสมมติ) อายุ 41 ปี ชาวฟินแลนด์ ได้เรียกแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทม-4785 กทม. ซึ่งมีนายประสิทธิ์ผู้ต้องหาเป็นผู้ขับขี่ จากบริเวณหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ให้ไปส่งที่บ้านพักย่านแจ้งวัฒนะ
โดยขณะนั้นนางเฮเลนอยู่ในอาการมึนเมาสุราจึงได้เผลอหลับไประหว่างทาง นายประสิทธิ์จึงฉวยโอกาสจอดรถข้างทางที่ด้านหลังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในย่านแจ้งวัฒนะ ก่อนข้ามมาที่เบาะหลังแล้วข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนกระทั่งสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง แล้วทิ้งตนขับรถหลบหนีไป ต่อมานางเฮเลนรู้สึกตัวจึงได้เรียกรถแท็กซี่อีกคันหนึ่งกลับบ้าน ก่อนเดินทางมาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบทราบมาว่านายประสิทธิ์เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ และติดตามจับกุมตัวได้ที่ปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ขณะที่ผู้ต้องหาเข้าไปรับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาขับ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ลุมพินี
จากการสอบสวน นายประสิทธิ์ให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจริง โดยในวันเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายใส่กระโปรงสั้นทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา ประกอบกับผู้เสียหายมึนเมาสุราจนไม่ได้สติ ตนจึงได้ข้ามไปที่เบาะหลัง ก่อนที่ใช้อวัยวะเพศสอดใส่จนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง โดยที่ผู้เสียไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างไร ซึ่งตนคิดว่าผู้เสียหายยินยอม
ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี ส่วนในเรื่องข่มขืนนั้นจะต้องรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากทางแพทย์ว่ามีร่องรอยถูกข่มขืนหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีร่องรอยถูกข่มขืนจริงก็จะแจ้งข้อหาข่มขืนเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา