เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 พ.ย. ขณะที่ พ.ต.ต.ทรงพล ศรีชมพู สารวัตรเวร สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก
ได้มีนายไพสิทธิ์ พินิจการ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 5 ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง อดีตแพทย์ประจำตำบลบางเลน เดินกระหืดกระหอบใบหน้าซีดเซียวเข้าแจ้งความว่า เมื่อ 2 วันก่อนมีชายแต่งกายภูมิฐาน 4 คน ขับรถเก๋งวอลโว่ใหม่เอี่ยมไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เดินทางมาหาตนที่บ้านพร้อมกับบอกว่าต้องการมาติดต่อเช่าที่ดินของตน เพื่อติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเครือข่ายทรูมูฟ โดยยินดีจ่ายค่าเช่าให้ปีละ 350,000 บาท ทำสัญญา 5 ปี ตนบอกว่าให้มาติดต่อใหม่อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย.นี้ เพราะต้องให้ลูกสาวเป็นผู้ทำสัญญา เนื่องจากได้ยกที่ดินให้ลูกสาวไปแล้ว กลุ่มชายดังกล่าวจึงกลับไป
ต่อมาเมื่อตอนสายก่อนมาแจ้งความ ชายกลุ่มดังกล่าวได้มาหาตนอีกครั้ง โดยบอกว่าที่ต้องมาเร็วกว่ากำหนดเพราะวันอาทิตย์เป็นวันหยุดไม่สามารถทำสัญญาได้
ระหว่างพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน มีชายชาวต่างด้าวเข้าใจว่าเป็นคนพม่า เดินเข้ามาเร่ขายถุงเท้าให้กับกลุ่มชายดังกล่าว จากนั้นคนขายถุงเท้าได้ควักลอตเตอรี่ หมายเลข 602108 ชุดที่ 30 งวดประจำวันที่ 16 ต.ค.50 จำนวน 1 คู่ ออกมาให้กลุ่มชายทั้งหมดดูพร้อมบอกว่าเป็นลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งถ้านำไปขึ้นเงินจะได้รับเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท แต่ตัวเองเป็นคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมา ไม่สามารถไปเบิกเงินได้ จึงเสนอขายลอตเตอรี่คู่นี้ให้ในราคา 1.2 ล้านบาท เพื่อจะได้รีบกลับประเทศเร็วๆ
กลุ่มชายทั้ง 4 คนได้ไปเปิดรถเก๋ง หยิบหนังสือพิมพ์ ฉบับหนึ่งออกมาตรวจดูต่อหน้าตนพร้อมกับบอกว่าถูกรางวัลที่ 1 จริงๆ
จากนั้นทั้งหมดได้เปิดการเจรจากับตนว่า ไม่ได้พกเงินมาจำนวนมากขนาดนั้น จึงขอยกให้ตนเป็นผู้ซื้อลอตเตอรี่เอาไว้ และขอเพียงส่วนแบ่งบ้างเท่านั้น พร้อมกับรับจะเป็นผู้พาไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสองพี่น้อง โดยอ้างว่ารู้จักกับผู้จัดการธนาคารดี ด้วยความอยากได้เงินทำให้ตนหลงกล พาแก๊ง 18 มงกุฎไปเบิกเงินที่ธนาคาร ซึ่งในบัญชีมีเงินสดฝากอยู่ 3 ล้านบาท