ภายหลังจากตำรวจกองปราบปราม และตำรวจสืบสวนภาค 5 ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร.
จับกุมนายธานี วงศ์แพทย์ อายุ 31 ปี นายอิทธิกร อึ้งตระกูล อายุ 30 ปี นายเกียรติศักดิ์ ปงลังกา อายุ 25 ปี และนายจงรักษ์ หรือโกรักษ์ ศุภสิริ อายุ 55 ปี ผู้ใช้จ้างวานฆ่า นพ.ชาญชัย ศิลปอวยชัย อายุ 53 ปี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ขณะวิ่งออกกำลังกายบนถนนข้างสระว่ายน้ำในสนามกีฬาอำเภอเมืองแพร่ ตอนเช้าวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายจงรักษ์ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก อดีต ส.ส.แพร่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้การปฏิเสธ ในขณะที่คดีดังกล่าวถูกโอนเข้ากรุงเทพฯ ให้กองปราบปรามดำเนินคดี รวมทั้งนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาควบคุมที่กองปราบปราม
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 31 ต.ค.
พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี ผกก.4 บก.ป. เดินทางขึ้นไปรับตัวนายเจตริน หรือทิด อินทร์ประดิษฐ์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขับขี่จักรยานยนต์ กลับมาดำเนินคดีที่กองปราบปราม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 5 เข้าจับกุมได้ที่ จ.ลำพูน เบื้องต้นให้การรับสารภาพและมีประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบก.ป. นำพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำนายธานี วงศ์แพทย์ อายุ 31 ปี มือปืนลั่นไกสังหารอดีตนายก อบจ. แพร่ ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ปรากฏว่านายธานีไม่ยอมให้การ และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด คาดว่าอาจจะมีการกลับคำให้การในโอกาสต่อมา สาเหตุเพราะก่อนหน้านี้มีทนายความรายหนึ่งเข้าพูดคุยและให้คำปรึกษาในเรื่องคดีกับนายธานี ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือนายอิทธิกร อึ้งตระกูล อายุ 30 ปี และนายเกียรติศักดิ์ ปงลังกา อายุ 25 ปี ยังให้การเหมือนเดิม
ลากคอได้อีก1 ฆ่านายกอบจ.
แหล่งข่าวรายหนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า
ในเรื่องการกลับคำให้การ ได้คาดกันไว้แล้วว่าต้องเกิดขึ้น แต่คำให้การเดิมของผู้ต้องหาที่ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้ ถือว่ามีความสอดคล้องกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังมีพยานหลักฐานอื่นๆมาใช้ยืนยันการกระทำผิดของกลุ่มผู้ต้องหา รวมถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่รวบรวมมาได้และเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ดังนั้นถึงผู้ต้องหาจะกลับคำรับสารภาพ ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดปัญหาอะไร
ที่ห้องประชุมอาคาร 19 ชั้น 12 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน (สส.) กล่าวภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวว่า ได้ตรวจสอบสำนวนคดีนี้จากที่ทางจังหวัดแพร่ทำไว้ เห็นว่ามีอีกหลายประเด็นที่จะต้องดำเนินการ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุถึงแม้จะไม่พบ แต่ไม่ได้กังวลใจ เพราะมีหลักฐานอื่นๆที่รวบรวมได้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอยู่พอสมควร
ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.กล่าวว่า
ผู้ต้องหาในขบวนการตามหลักฐานในขณะนี้มี 6 คน เหลือนายการ์ด คนจัดหาปืนเพียงคนเดียวที่ยังหลบหนีอยู่แต่เชื่อว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้ ส่วนการกวดขันจับกุมกลุ่มมือปืนรับจ้างในช่วงการเลือกตั้ง บช.ก.มีบัญชีกลุ่มมือปืนอยู่แล้ว และกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมตามคำสั่ง พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม (สป.) โดยกำชับให้กองปราบปราม ออกติดตามความเคลื่อนไหว และออกจับกุมมือปืนที่มีหมายจับทุกราย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นห่วงว่าจะมีความรุนแรง เนื่องจาก 2 เหตุผลคือ การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ใหญ่ขึ้นทำให้ต้องมีการขยายเขตหาเสียง ขยายฐานเพิ่ม ซึ่งอาจเกิดกรณีเข้าไปทับพื้นที่กัน และการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่จะทำให้หัวคะแนนมีบทบาทมากขึ้น อาจทำให้เกิดการใช้ความรุนแรง เช่น การยิงหัวคะแนนมากขึ้นได้