จับเสี่ยข้าวมันไก่ค้ายาบ้าเป็นอาชีพเสริม ตร.รวบตัวพร้อมของกลางเกือบร้อยเม็ด เผยเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ "ข้าวมันไก่จับกัง"
เปิดบริการทั้งในกรุงและต่างจังหวัด โดยเฉพาะในอุดรธานี ยอมรับได้มาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ส่วนแบ่ง 40 เปอร์เซ็นต์ ทำมานาน 2 เดือนก็จนมุมเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 29 ต.ค. พ.ต.ท.อารี สินธุรา ช่วยการ รองผกก.กลุ่มงาน สส.ภ.จว.อุดรธานี สืบทราบว่า มีพ่อค้านำยาบ้ามาขายให้กลุ่มวัยรุ่นใกล้ร้านขายข้าวมันไก่ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี
จึงได้นำกำลังชุดสืบสวนอาทิตย์ กก.ภ.จว.อุดรธานี ออกสืบสวน และส่งสายออกติดต่อล่อซื้อได้ตกลงราคาซื้อขายกันในราคายาบ้า 50 เม็ดเป็นเงิน 10,000 บาท
นัดส่งมอบบริเวณหน้าร้าน "ข้าวมันไก่จับกัง" ถ.บ้านเหล่า ต.หมากแข้ง ต่อมามีชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลัง คือ นายมงคล หรือเบิ้ม จารุเบ็ญจรัตน์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/10 ถนนประชาอุทิศ ต.หมากแข้ง ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดและติดต่อกับสาย
พ.ต.ท.อารีจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมถุงพลาสติก 5 ถุง บรรจุยาบ้าถุงละ 10 เม็ด รวม 50 เม็ด เงินสดล่อซื้อ และเมื่อขยายผลต่อนำไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 495/1 ม.7 ซ.จินตคาม ต.หมากแข้ง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบยาบ้าอีก 22 เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อที่แขวนอยู่ในห้อง
จับเสี่ยดัง ร้านจับกัง ข้าวมันไก่ พ่วงยาบ้า
สอบสวนนายมงคล ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ "ข้าวมันไก่จับกัง"
ขายห่อละ 10 บาท โดยมีสาขาใน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี สกลนคร และกทม. โดยขายลักษณะแฟรนไชส์ ให้แต่ละแห่งในราคา 25,000 บาท พร้อมเต็นท์และป้ายให้ และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวประเทศ สปป.ลาว รู้จักกับชาวลาวคนหนึ่งอยู่ที่เวียงจันทน์ ซึ่งชักชวนให้ตนเป็นตัวแทนขายยาบ้า โดยจะแบ่งค่าขายยาบ้าให้ 40% ตนจึงรับเป็นอาชีพเสริม
นายมงคลกล่าวว่า เอเยนต์ยาบ้านชาวลาวจะนำยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกถุงละ 10 เม็ด มาส่งให้ตนที่อุดรธานีครั้งละ 10 ถุง จำนวน 100 เม็ด ในราคา 20,000 บาท ซึ่งนำมาส่งให้ตนแล้ว 4–5 ครั้ง แล้วนำมาขายให้กลุ่มวัยรุ่นที่มามั่วสุมกันที่ร้านขายข้าวมันไก่ของตนในซอยจินตคามจนมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ด้านพ.ต.ท.อารี เปิดเผยด้วยว่า จากการตรวจสอบนายมงคลนั้นเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ "ข้าวมันไก่จับกัง" จริง
โดยในตัวเมืองอุดรฯ จะมีร้านขายอยู่ประมาณ 2-3 ร้าน ซึ่งดูแล้วก็น่าจะมีฐานะ แต่เมื่อสอบถามนายมงคลว่าทำไมถึงต้องมีขายยาบ้าทั้งที่ขายแฟรนไชส์ข้าวมันไก่จับกังก็ขายดีอยู่แล้ว นายมงคลตอบแบบกวนๆ ว่าทำเป็นอาชีพเสริม
หลังสอบปากคำ พ.ต.ท.อารีส่งตัวนายมงคล พร้อมด้วยยาบ้า 77 เม็ด พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาบ้า ของกลาง ให้กับร้อยเวรสภ.อ.เมืองอุดรธานีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายต่อไป