คดีสังหารโหด นพ.ชาญชัย ศิลปอวยชัย นายก อบจ.แพร่ ที่ถูก 2 มือปืนประกบยิงเสียชีวิตขณะวิ่งออกกำลังกายอยู่บนถนนข้างสระว่ายน้ำในสนามกีฬาอำเภอเมืองแพร่
เมื่อเช้าตรู่วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังผ่านพ้นไป 7 วัน ปมเงื่อนคดีอำมหิตก็เริ่มคลี่คลายออกมาได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อตำรวจกองปราบปรามร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บุกเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อมโยงในการกระทำผิด ถูกคุมตัวไปเค้นสอบสวนในที่สุดผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนก็ยอมเปิดปากรับสารภาพแล้วว่าเป็นทีมมือปืนที่ก่อเหตุสังหารโหดนายก อบจ.แพร่ และล่าสุดตำรวจขยายผลเข้าจับกุมผู้จ้างวานฆ่าได้อีก 1 คนด้วย
ความคืบหน้าของคดีหลังจากตำรวจสามารถจับกุมทีมสังหาร 3 คนแล้ว
ได้นำตัวไปเค้นสอบสวนจนกระทั่งกลุ่มผู้ต้องหายอมเปิดปากซัดทอดถึงผู้ว่าจ้างฆ่า นพ. ชาญชัย คือ นายจงรักษ์ ศุภศิริ หรือ “โกรักษ์” อายุ 55 ปี เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก อดีต ส.ส.แพร่ พรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมตำรวจคอมมานโด ตำรวจ นปพ.แพร่ รวมกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธครบมือ นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 142/2 หมู่ 8 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ ซึ่งเป็นบ้านของนายจงรักษ์ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวนายจงรักษ์ ไปสอบสวน พร้อมดำเนินคดีในข้อหาจ้างวานฆ่า นพ.ชาญชัย ตามที่กลุ่มมือปืนให้การซัดทอด
สำหรับนายจงรักษ์ หรือโกรักษ์ ศุภศิริ จัดเป็นผู้กว้างขวางมีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งของ จ.แพร่
ทำธุรกิจเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันและปั๊มแก๊สหลายแห่ง และเป็นพี่ชายของนายสาโรจน์ หรือโกโรจน์ ศุภศิริ อดีตประธานสภา อบจ.แพร่ ขณะเดียวกัน กำลังตำรวจอีกชุดจู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 99/4 หมู่ 5 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ ซึ่งเป็นบ้านของนายพงษ์สวัสดิ์ ศุภศิริ อายุ 48 ปี ประธานสภา อบจ.แพร่ น้องชายของแม่เลี้ยงติ๊ก ผลการตรวจค้นพบกระสุนปืน 9 มม.จำนวน 1 นัด และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ จึงควบคุมตัวนายพงษ์สวัสดิ์ ดำเนินคดีในข้อหามีกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลังสอบปากคำแล้ว นายพงษ์สวัสดิ์ได้ยื่นขอประกันตัวออกไปทันที