แฉเบื้องหลังคดีไร่ปฏิบัติธรรมสวนป่าเป๊าะฯ รุกป่า - ป่าไม้อ้างโยงพันธมิตรฯ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2549 11:24 น.
เชียงราย แฉเบื้องหลังข้อหา ไร่ปฏิบัติธรรมสวนป่าเป๊าะนางแล รุกป่าจากกรมป่าไม้ อ้างโยงพันธมิตรฯ ทั้งที่ไม่มีชื่อแกนนำเป็นเจ้าของ แถมยัดข้อหา ส.ป.ก.จังหวัดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบออก ส.ป.ก.4-01 รุกป่า
ในการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ถือครอง ส.ป.ก.4-01 บริเวณไร่ปฏิบัติธรรม สวนป่าเป๊าะนางแล บ้านแม่ปูคา ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย กลางดึกวันที่ 23 เม.ย.49 จำนวน 3 แปลง ของนายสุนทร วัชรกุลดิลก เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 8 ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม สำนักจัดการและควบคุมป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ สภ.ต.ย่อยบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมเอกสารหลักฐาน แผนที่ กว่า 100 หน้า และหนังสือของสำนักจัดการและควบคุมป่าไม้ฯ เลขที่ ทร.1612.2 โดยมี พ.ต.ท.ประสิทธิ์ คำวงค์ษา พนักงานสอบสวน สภ.ต.ย่อยบ้านดู่ รับแจ้งความนั้น
นายสุนทร ระบุว่า เป็นการแจ้งความดำเนินคดีหลังจากเมื่อ 9 เม.ย.49 เจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตำรวจได้นำหมายศาล จ.เชียงราย เลขที่ 472/49 เข้าตรวจค้นไร่ปฏิบัติธรรมป่าเป๊าะ ตั้งอยู่ติดเชิงเขาบ้านแม่ปูคา ม.13 ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลอบตัดไม้สัก และนำไม้มาทำเป็นบ้านพัก จากสวนป่าโป่งพระบาท นานกว่า 4-5 ปีแล้ว
จากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า ที่ดิน ส.ป.ก.ทั้ง 3 แปลงเนื้อที่ราว 100 ไร่ มีการบุกรุกที่สวนป่าโป่งพระบาทและป่าโซนซี จึงแจ้งดำเนินคดีกับเจ้าของ ส.ป.ก.4-01 ทั้ง 3 คน คือ นายมธุธัช รัตนปรารมย์ อยู่เลขที่ 318 ม.9 ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย มี ส.ป.ก.เนื้อที่ 22 ไร่ นางสาวเสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อยู่บ้านเลขที่ 403 ม.2 ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย มี ส.ป.ก.4-01 เนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา นางสาวธิดาลักษณ์ วรรณวัฒนากิจ มี ส.ป.ก.4-01 เลขที่ 318 ม.9 ต.นางแล มีเนื้อที่ 44 ไร่ 79 ตารางวา และดำเนินคดีกับนายนิธิพัชร เพชระบูรณิน อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/3 หมู่ที่ 3 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ผู้ดูแลไร่ ข้อหาร่วมกันบุกรุกก่นสร้างแผ้วถางป่า และ กระทำการอันใดอันเป็นการทำให้เสื่อมเสียสภาพที่ดิน
นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2 คน คือ นายบุญสม ทองบุญอยู่ หัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จ.เชียงราย (ส.ป.ก.) คนปัจจุบัน และนายจำลอง อินทร์จันทร์ หัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.เชียงราย (ปฏิบัติหน้าที่เมื่อปี 45) ในข้อหาร่วมกันบุกรุกก่นสร้างแผ้วถางป่า และกระทำการอันใดอันเป็นการทำให้เสื่อมเสียสภาพที่ดิน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะ ส.ป.ก.4-01 ออกเมื่อปี 2542 เขตป่าสงวนดอยนางแล ป่าดอยยาว และป่าดอยพระบาท ประกาศตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 795 เมื่อ ปี 2521
นอกจากนี้ยังแจ้งความ นายนิธิพัชร เพชระบูรณิน ผู้ดูแลไร่ปฏิธรรมอีกข้อหา คือ แจ้งความเท็จ เนื่องจากไม้สักที่นำมาก่อสร้างบ้านในไร่ปฏิบัติธรรม
จากการตรวจสอบพบว่า นายนิธิพัชรอ้างว่าซื้อจาก อ.อ.ป. แต่จากการตรวจเอกสาร ออป.และวัดขนาดไม้สัก พบว่า ไม่ตรงกับเอกสารซื้อขาย ซึ่งนายนิธิพัชรสั่งซื้อมาลงที่บ้านของนายสุพล อารีย์ ชาวบ้านอยู่บ้านเลขที่ 234 ม.13 ต.นางแล ห่างจากไร่ปฏิบัติธรรม 3 กม.ด้วย ส่วนที่ดินในไร่ที่อ้างว่ามี นส.3 ก. จากการตรวจสอบกับที่ดินจังหวัดเชียงรายแล้วยืนยันว่าในไร่ปฏิบัติธรรมไม่มีการออกแอกสารสิทธิที่ดินแต่อย่างใด จึงไม่มี นส.3 แน่นอน
นายสุนทร อ้างอีกว่า คดีนี้ที่ต้องดำเนินคดีกับปฏิรูปที่ดิน จ.เชียงราย เพราะน่าจะมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ทับที่เขตป่าสงวนดอยนางแล ป่าดอยยาว และป่าดอยพระบาท ประกาศตามกฎกระทรวง ฉบับ 795 เมื่อ ปี 2521 เนื่องจากสอบถาม ส.ป.ก.ไปแล้วพบว่า ไม่มีการรับมอบอำนาจจากป่าไม้ในการออกเอกสาร ส.ป.ก.ในพื้นที่ดังกล่าวตามกฎหมาย ปฏิรูปที่ดิน จึงต้องแจ้งความด้วย และมั่นใจว่าหลักฐานแน่นหนา
นอกจากนี้ นายสุนทรยังบอกอีกว่า การเข้ามาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับไร่ปฏิบัติธรรมสวนป่าเป๊าะนี้ เนื่องจากเจ้าป่าหน้าที่ป่าไม้ได้รับการร้องเรียนว่าเป็นของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในเอกสารหลักฐานการถือครองที่ดินทั้งหมด ไม่ปรากฏชื่อแกนนำพันธมิตรฯแต่ประการใด
นายสุนทร บอกอีกว่า ซึ่งหากพิสูจน์ว่าผิดจริงผู้ถูกกล่าวหาจะต้องโทษสูงสุดจำคุก 2 ปี ถึง 15 ปี ปรับ 20,000 บาทถึง 150,000 บาท และ เรียกค่าเสียหายไร่ละ 150,000 บาท
หลังจากนี้นายสุนทร จะกลับไปรวบรวมเอกสารเพิ่มเติมก่อน จากนั้นจึงจะนำพนักงานสอบสวนไปดูที่เกิดเหตุในต้นเดือนพฤษภาคม 49 โดยจะมีการเชิญฝ่ายปกครองเข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวนด้วย ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะมีการเรียกผู้ถูกกล่าวทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป