หลังพบศพเพียงข้ามวันตำรวจสภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ก็สามารถปิดคดีคนร้ายฆ่านายพรมรินทร์ หนุ่มผู้ช่วยพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดลเอาไว้ได้สำเร็จ
หลังจากที่นายพรมรินทร์ถูกแก๊งคนร้ายวัยโจ๋ลวงไปฆ่า ทิ้งศพหมกป่าละเมาะบนที่ดินรกร้าง ริมถนนพุทธมณฑลสาย 5 ท้องที่หมู่ 11 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ศพโผล่ฟ้องในตอนบ่ายวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา
เป็นคดีสยองเมืองนครปฐม!!
คนร้ายแก๊งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นกลุ่มวัยรุ่นแก๊งดีเจ.วิทยุชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมนั่นเอง ที่ร่วมกันฆ่านายพรมรินทร์เพราะต้องการชิงทรัพย์สิน โดยอ้างว่าเหยื่อให้เป็นธุระจัดหาเด็กผู้หญิงมาให้ร่วมประเวณี แต่พอเห็นว่านายพรมรินทร์มีฐานะดี เลยวางแผนล่อลวงไปในที่เปลี่ยวก่อนจะช่วยกันรุมทำร้ายร่างกายแล้วชิงเอาทรัพย์สินมีค่าไป
แต่สุดท้ายก็ต้องจนมุมตำรวจ
ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 23 ตุลาคม ทันทีที่รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกฆ่าหมกป่าละเมาะ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วยพ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.ท.พิชัย ปกป้อง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.อิทธิพล พรเทวบัญชา สว.สส. และชุดสืบสวนสภ.โพธิ์แก้วจึงเดินทางไปตรวจสอบทันที
ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน
ทราบเพียงเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สูง 168 ซ.ม. นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเหลือง ตัดผมสั้นไว้หนวดเครา ถูกฆ่าตายในสภาพนอนหงายหนอนไต่ยั้วเยี้ย ส่งกลิ่นเหม็น ตามร่างกายโดนทำร้ายที่ใบหน้ายับเยินและถูกตีด้วยขวดจนหูฉีกขาด กรามหัก เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน ในตัวไม่พบหลักฐานใดๆ ทรัพย์สินถูกขโมยไปหมด
คำสารภาพแก๊งดีเจ.ทมิฬ ฆ่าชิงทรัพย์หนุ่มพยาบาล อ้างแค้น-ขอนอนกับแฟน
ที่สำคัญ คนแถวนี้ไม่เคยเห็นหน้าผู้ตายมาก่อน!??
ตำรวจออกหาเบาะแสผู้ตายทันที โดยตั้งข้อสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจมาเที่ยวตามสถานบันเทิงแถวนี้ เพราะดูจากการแต่งตัวและทรงผมน่าจะเป็นนักท่องราตรี จึงนำภาพถ่ายศพไปให้พยานตามสถานบันเทิงดู
ในตอนแรกคดีทำท่าจะมืดแปดด้าน เพราะไม่มีใครรู้จักผู้ตายเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไปได้พยานปากสำคัญที่บังเอิญเห็นว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายนั่งดื่มเหล้าอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นที่ร้านอาหาร "ครัวพี่หลวง" ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกับจุดพบศพ โดยจำลักษณะท่าทางและการแต่งตัวของผู้ตายได้ เพราะใส่กางเกงขาสั้นมากินหล้า
แต่ที่จำได้แม่นกว่านั้นก็เพราะ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่ด้วยกันมีนายวัชรินทร์ หรือ "ยู" ผิวคำ อายุ 18 ปี กับน.ส.สายฝน หรือ "ไอซ์" พรมมี 2 ดีเจ.ประจำสถานีวิทยุสื่อภาคประชาชน ส.ภ.ช. F.M.101.5 MHz ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นรู้จักดีนั่งรวมอยู่ด้วย
ตำรวจจึงโฟกัสไปที่โจ๋ดีเจ.กลุ่มนี้
วันรุ่งขึ้นตำรวจตามไปควบคุมตัวนายวัชรินทร์กับน.ส.สายฝนมาสอบสวน ทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพทันที ว่าร่วมกันฆ่านายพรมรินทร์จริง ทำไปเพื่อหวังชิงทรัพย์เพราะเห็นว่าเหยื่อมีฐานะดี โดยร่วมมือกับน.ส.สุเนตรา หรือ "อี๊ด" อินธิราช อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นสาวทอม มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 152 ม.8 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย น.ส.เมืองจันทร์ หรือ "เฟิร์น" สุภาทิพย์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ต.พิมายเหนือ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ และนายรณชัย หรือ "บอย" ทั่งทอง อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/1 ม.4 ต.ห้วยเกตุ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร แฟนของน.ส.เมืองจันทร์ช่วยกันสังหารผู้ตาย ตำรวจจึงขออนุมัติออกหมายจับกุมตามไปรวบตัวทั้งหมดเอาไว้
คดีนี้มีคนร้ายถึง 5 คนด้วยกัน
จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาให้การ ว่า ผู้ตายคือนายพรมรินทร์ หรือ "หมอ" หรือ "เบิ้ม" หาญวงษ์ อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 218/19 ม.3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นผู้ช่วยพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดดล เบื้องหลังการตายครั้งนี้เริ่มการที่นายพรมรินทร์ชอบมานั่งดื่มกินที่ร้านอาหารครัวพี่หลวงเป็นประจำ จนรู้จักกับน.ส.สุเนตราสาวทอมที่มาเที่ยวร้านนี้เป็นประจำเช่นกัน โดยนายพรมรินทร์มักจะขอให้น.ส.สุเนตราจัดหาเด็กสาวมาร่วมหลับนอนเกือบทุกครั้งที่พบกัน
ก่อนเกิดเหตุตอน 4 ทุ่มของวันที่ 19 ต.ค.
นายพรมรินทร์ได้นัดเจอกับน.ส.สุเนตราอีกครั้ง พร้อมกับขอให้สาวทอมจัดหาเด็กสาวมาให้เหมือนเดิม น.ส.สุเนตราจึงโทร.ไปหาน.ส.เมืองจันทร์ ซึ่งเป็นแฟนนายรณชัย ว่ามีผู้ชายอยากนอนด้วย จะจ่ายค่าตัวให้ไม่อั้น แต่น.ส.เมืองจันทร์กลับนำเรื่องไปเล่าให้นายรณชัยฟัง ทำให้นายรณชัยเกิดความไม่พอใจอย่างแรงที่มีคนมาขอหลับนอนกับแฟนตัวเองแบบนั้น นายรณชัยจึงบอกกับน.ส.สุเนตราว่าให้ล่อหลอกนายพรมรินทร์ไปเจอกันที่บริเวณป่าละเมาะจุดเกิดเหตุเพื่อจะได้ลงมือฆ่าชิงทรัพย์ โดยสั่งให้นายวัชรินทร์กับน.ส.สายฝนซึ่งเป็นเพื่อนตามไปสมทบที่ร้าน
"วัชรินทร์" กับ "สายฝน" ซึ่งเป็นดีเจ.มีคนรู้จักกว้างขวางจึงไปปรากฏตัวที่นั่น!!
หลังเจอกันทั้งหมดพากันซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปที่ป่าละเมาะ เมื่อมาถึงจุดนัดหมายนายรณชัยกับน.ส.เมืองจันทร์ ได้ออกมาจากที่ซ่อนตรงเข้าทำร้ายนายพรมรินทร์ ก่อนที่นายวัชรินทร์จะใช้ขวดเบียร์ตีหัวนายพรมรินทร์จนสลบแน่นิ่งไป หลังจากนั้นนายรณชัยก็ใช้ขวดเบียร์อีกขวดหวดซ้ำ โดยมีน.ส.สุเนตราเข้าไปกระทืบซ้ำ จนเหยื่อสิ้นใจตาย แล้วช่วยกันรื้อค้นเอาโทรศัพท์มือถือและเงินสด 8 พันบาทของนายพรมรินทร์ไป จากนั้นคนร้ายได้ช่วยกันลากศพนายพรมรินทร์ไปทิ้งในป่าละเมาะ แล้วพากันไปแบ่งทรัพย์สินที่ห้องพักในหมู่บ้านกลาโหมนิเวศน์ข้างสถานีวิทยุสื่อภาคประชนชน ส.ภ.ช. F.M.101.5 MHz ที่นายวัชรินทร์กับน.ส.สายฝนเป็นดีเจ.อยู่จนกระทั่งถูกจับได้
ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้กำลังเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพทันที
ดับอนาคตแก๊งโจ๋ลงเพียงเท่านี้