ซีดีพระมั่วสีกาโผล่ บุกตรวจสอบ ไหวตัวสึกหนี

มือมืดแอบส่งวีซีดีฉาว แฉอดีตเจ้าอาวาสวัดดังสิงห์บุรีมั่วสีกา ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบที่วัดปรากฏว่า สึกออกจากวัดไปอย่างไร้วี่แวว พระในวัดปิดปากเงียบ โยนให้ไปถามเจ้าคณะตำบลเอง ขณะที่โฆษกมหาเถรสมาคม เผยยอดพระ-เณรผิดวินัยปี 48 พฤติกรรมไม่เหมาะสมอื้อ ยันลงโทษตั้งแต่ตักเตือน-จับสึก

ภาพในวีซีดีฉาว แฉพฤติกรรมความไม่เหมาะสมของพระใน จ.สิงห์บุรี ครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2549 กลุ่มสื่อมวลชนจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับแผ่นวีซีดีลึกลับ มีข้อความเขียนใส่กระดาษส่งมาจากผู้หวังดีว่า เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียของพระครูโสภณธรรมจักร อายุ 58 ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วนพคุณ โดยพระครูรูปนี้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวหลายราย จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยตีแผ่เรื่องนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวเปิดวีซีดีดังกล่าว พบว่า มีชายลักษณะศีรษะโล้น กำลังร่วมเพศกับหญิงสาว ด้วยลีลาท่าทางต่างๆ อย่างถึงพริกถึงขิง ซึ่งวีซีดีดังกล่าวแอบถ่ายมาจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดใกล้เคียง

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดโพธิ์แก้วนพคุณ พร้อมกับสอบถามชาวบ้านในย่านนั้นทราบว่า พระครูโสภณธรรมจักรลาสิกขาไปแล้ว ไม่อยู่ที่วัดแห่งนี้แล้ว เมื่อสังเกตบริเวณด้านหน้ากุฏิของพระครูโสภณธรรมจักร มีข้อความเขียนไว้ว่า ปิดทำการ มีพระอรรถสิทธิ์โสภณ เจ้าคณะตำบลจักรสีห์ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เซ็นชื่อกำกับไว้บนกระดาษขนาดเอ 4 ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามพระลูกวัดที่จำวัดอยู่ทั้งหมด 4 รูป พระแต่ละรูปตอบเพียงอย่างเดียวว่า ไม่ทราบเรื่อง มีอะไรให้ไปถามกับเจ้าคณะตำบลซึ่งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนี้

จากการสอบถามนายแดง (นามสมมติ) ชาวบ้านบริเวณใกล้วัด ได้ความว่า เมื่อคืนวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา พระครูโสภณธรรมจักรได้นำรถบรรทุกมาขนของไปจากวัดช่วงกลางดึก ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงทราบเพียงว่า อาจจะมีปัญหาเรื่องผู้หญิง เพราะพฤติกรรมของพระครูโสภณธรรมจักร มักมีผู้หญิงแวะเวียนเข้ามาหาอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เข้ากับชาวบ้านไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่พระครูโสภณธรรมจักร จะย้ายมาอยู่ที่วัดโพธิ์แก้วนพคุณ เคยจำวัดอยู่ที่วัดธรรมจักร หรือวัดสามเกรียว ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ได้ประมาณ 3 ปี และเมื่อย้ายมาที่วัดโพธิ์แก้วนพคุณ ก็ทำให้พระหลายรูปต้องขอย้ายออกไป เพราะทนดูพฤติกรรมของพระโสภณธรรมจักรไม่ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า พระครูโสภณธรรมจักร ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่วัดโพธิ์แก้วนพคุณ ก็ตั้งตัวเองเป็นหมอดู หมอเสน่ห์ และอาจารย์สักยันต์ พร้อมกับมีพฤติกรรมพาสีกามามั่วสุมตอนกลางดึก จนชาวบ้านเอือมระอา และย้ายไปทำบุญที่วัดแห่งอื่นหมด รวมทั้งพระที่วัดก็แทบจะไม่เหลืออยู่ จนกระทั่งเมื่อประมาณกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีสีกาคนหนึ่งนำวีซีดีเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระครูโสภณธรรมจักร ไปมอบให้เจ้าคณะอำเภอเมืองสิงห์บุรี และเจ้าคณะจังหวัด พร้อมขอร้องให้สึกพระครูโสภณธรรมจักร และให้ออกไปอยู่ที่อื่นไม่ให้อยู่ใน จ.สิงห์บุรี

ทั้งนี้ วีซีดีพฤติกรรมฉาวดังกล่าว น่าจะมาจากหญิงสาวคนเดียวกันกับที่ส่งข้อมูลให้พระผู้ใหญ่ทราบเรื่องนี้ และได้รับรายงานว่า พระครูโสภณธรรมจักร หรือชื่อเดิมคือนายสมภาส พูลเจริญศิลป์ ได้วนเวียนเข้ามาใน จ.สิงห์บุรี เพื่อที่จะเอาเรื่องกับหญิงสาว ที่นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย

ในระยะหลังนี้ เรื่องราวความอื้อฉาวของพระภิษุ-สามเณร มีปรากฏให้เห็นเป็นข่าวมากขึ้น พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ทางส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้รายงานการปฏิบัติหน้าที่ด้านการตรวจตราดูแลความเรียบร้อยเกี่ยวกับพระภิกษุสามเณรที่ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม เช่น บิณฑบาตขาดความสำรวมและเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจตราตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2548 ปรากฏว่า มีพระภิกษุสามเณรที่มีอาจาระไม่สมควรรวมทั้งบุคคลแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์รวม 513 รูป/คน มีรายละเอียดดังนี้ บิณฑบาตขาดความสำรวมและรับแต่ปัจจัย 376 รูป ปักกลดตามย่านชุมชนและพักค้างแรมตามบ้าน 78 รูป เรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต 6 รูป เล่นการพนันและเสพยาเสพติด 26 รูป คลุกคลีมาตุคามหรือไปเกี่ยวข้องกับสตรีเพศ 2 รูป และปลอมบวช 25 คน

โฆษก มส. กล่าวต่อว่า พระภิกษุสามเณรที่มีอาจาระไม่สมควรทั้งหมด ทางส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาได้ถวายคำแนะนำ 233 รูป เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ภาคทัณฑ์ 168 รูป เจ้าคณะผู้ปกครองสั่งให้กลับสังกัดเดิม 6 รูป เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์ปัสสาวะ ในกรณียาเสพติด 10 รูป เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ดำเนินการให้ลาสิกขา 72 รูป และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี กรณีปลอมบวช 24 คน ทั้งนี้ แบ่งเป็นพระภิกษุสามเณรในสังกัดวัดในเขตกรุงเทพฯ 168 รูป สังกัดวัดในส่วนภูมิภาค 344 รูป และสังกัดวัดต่างประเทศ 1 รูป นอกจากนี้เคยพบเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งยืนสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ แล้วเข้าไปตักเตือนพระรูปนั้น ไม่ให้สูบบุหรี่หรือให้ไปสูบในที่ที่จัดให้สูบบุหรี่ แต่กลับเพิกเฉยเช่นนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี อยากจะวิงวอนพระภิกษุสามเณรทุกรูปประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยสงฆ์อย่างเคร่งครัดด้วย