จยย.หึงโหดเมียนศ. จ่อยิงดับแล้วฆ่าตัว

ผัวหึงโหดจ่อยิงเมียสาวดับสยอง แค้นกลับบ้านไม่ตรงเวลา

ก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันฆ่าตัวตายตาม เผยผัวหนุ่มเมียสาวอยู่กินกันมานาน 7 ปี จนมีลูกชายวัย 6 ขวบ ล่าสุดพ่อแม่ของฝ่ายหญิงส่งเงินมาให้ลูกสาวเรียนต่อระดับปวช. ล่า สุดทั้งคู่มักมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง เนื่องจากฝ่ายหญิงหลังเลิกเรียนแล้วกลับบ้านผิดเวลา บางวันก็ไม่กลับเลย ผัวนำเรื่องไปปรึกษาน้องสาว อ้างทนพฤติกรรมเมียไม่ไหวแล้ว จึงไปฉกปืนญาติมาก่อเหตุสยอง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ต.ค. พ.ต.ต.สันติ เครือสิงห์ สว.สภ.ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งว่ามีเหตุสามีใช้อาวุธปืนยิงภรรยาได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสและยิงตัวเองตายตาม

เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 65/2 ม.1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.ยงยุทธ เตชะรัตน์ ผกก. พ.ต.ท.อรรถพล อนุ สิทธิ์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.อชิรพงษ์ แก้วดวง รองผกก.ป. สภ.ต.ราชาเทวะ เจ้าหน้าที่วิทยาการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง หน้าบ้านเป็นร้านขายของชำ เหตุเกิดภายในห้องนอน

ตำรวจพบกองเลือดจำนวนมากและยังพบอาวุธปืนขนาด.38 ลูกโม่ สีดำ ตกอยู่ที่พื้น ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังว่านายไพทูรย์ แขกน้อย อายุ 29 ปี และน.ส.สุรีรัตน์ ธีมะศิริ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 65/2 ม.1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ถูกญาตินำส่งร.พ. จุฬารัตน์ 1

ตำรวจจึงรุดไปยังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1

พบว่าทั้งคู่เสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว สภาพศพของนายไพทูรย์ สวมกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดสีเทา มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับด้านขวาทะลุซ้าย ส่วนน.ส.สุรีรัตน์ สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เสื้อยืดสีดำ ถูกยิงที่ชายโครงและหน้าอกรวม 2 นัดกระสุนฝังใน

จากการสอบสวนนายประยงค์ แขกน้อย อายุ 62 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 65/2 ม.1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พ่อของนายไพทูรย์ ให้การว่า นายไพทูรย์มีอาชีพขับวินรถจักรยานยนต์อยู่ที่ริมถ.บาง นา-ตราด ก.ม.12 ส่วนน.ส.สุรีรัตน์ เรียนปวช. ภาคค่ำอยู่ที่ร.ร.นิดาบริหารธุรกิจและวิศวกรรม ทั้งคู่อยู่กินกันมาเป็นเวลา 7 ปี ที่บ้านหลังเกิดเหตุ กระทั่งมีลูกชายด้วยกัน ปัจจุบันอายุ 6 ขวบ และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แม่ของน.ส.สุรีรัตน์ ซึ่งอยู่ที่จ.ชลบุรี ส่งเงินมาให้น.ส.สุรีรัตน์เรียนต่อในระดับปวช.ภาคค่ำ แต่เมื่อช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เนื่องจากน.ส.สุรีรัตน์กลับบ้านผิดเวลา และบางวันก็ ไม่กลับบ้านหลังเลิกเรียน กระทั่งวันเดียวกันนี้ได้มีปากเสียงกันอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าลูกชายจะตัดสินใจก่อเหตุเช่นนี้ ส่วนอาวุธปืนมาทราบภายหลังว่าเป็นของญาติๆ ที่บ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายไพทูรย์ไปงัดตู้และขโมยอาวุธปืนมาก่อเหตุ

น.ส.มณฑา แขกน้อย อายุ 25 ปี น้องสาวของนายไพทูรย์ ให้การว่า

นายไพทูรย์มาบ่นกับตนเป็นประจำเรื่องที่น.ส.สุรีรัตน์ไม่ยอมกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนว่า อาจแอบคบอยู่กับชายคนใหม่ และล่าสุดก่อนเกิดเหตุนายไพทูรย์บ่นในลักษณะเดิมพร้อมกับพูดทิ้งท้ายว่าทนพฤติกรรมของภรรยาไม่ไหวแล้ว ตนเองก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดคุยกัน นึกไม่ถึงว่าพี่ชายจะก่อเหตุเช่นนี้  เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า นายไพทูรย์น่าจะเกิดความหึงหวงที่ภรรยาที่ไม่กลับบ้านบ่อยครั้ง หลังจากเลิกเรียน และมีหนุ่มๆ มาติดพัน จึงไปขโมยอาวุธปืนของญาติมาก่อเหตุยิงภรรยา ก่อนที่จะยิงตัวเองตายตาม ซึ่งตำรวจได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชฯต่อไป