หิ้ว 4 โจรปาหินทำแผน

ตำรวจหิ้ว 4 วายร้ายใจทมิฬ ใช้ก้อนหินปาใส่โชเฟอร์รถบรรทุก จนตาขวาบอด  ไปทำแผน

ยืนยันความผิดแล้ว ชาวบ้านรุมสวดยับ สาปแช่ง ให้ลงโทษสถานหนัก “ผบช.ภ.1” งัดไม้แข็ง คาดโทษตำรวจ หากท้องที่ใดปล่อยประละเลยให้เกิดซ้ำอีก ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ ขณะที่โจรโอดสำนึกผิด ไปก่อเหตุฝืนดวงตัวเอง เลยต้องรับโทษติดคุก ด้านเจ้าของบริษัทต้นสังกัดโชเฟอร์โชคร้าย นำดอกไม้ให้กำลังใจตำรวจ ระบุอ้าแขนรับลูกน้อง กลับเข้าทำงานเหมือนเดิม


จากกรณีแก๊งคนร้ายขว้างก้อนหินใส่รถบรรทุกวิ่งผ่านตามถนนสายบางปะอิน-พระนครศรีอยุธยา หมู่ 9 ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

จนทำให้ให้นายสมยศ สีโชค อายุ 31 ปี คนขับรถขนส่งบริษัทเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตาข้างขวาบอด  ส่วนลูกน้องอีก 2 คน บาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนชิงทรัพย์หลบหนี ต่อมาตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมไว้ได้ ประกอบด้วย นายสุเทพ หรือนิ่ม พวงมาลา อายุ 41 ปี  อยู่บ้านอยู่เลขที่ 33/10 ม.8 ต.เบิกไพร องบ้านโปง จ.ราชบุรี นายสัมฤทธิ์ หรือบอล พวงมาลัย อายุ 19 ปี ลูกชาย นายเชน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาสามารถติดตามจับกุมนายประธาน หรือทวน ชมสมุทร อายุ 44 ปี พี่ชายนายวิฑูรย์  ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ นำทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อหลบหนีและทำร้ายผู้อื่น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ครบทั้งหมด 4 คนแล้วนั้น



ความคืบหน้าที่สภ.อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23  ต.ค.

พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1  พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช. พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา  พ.ต.อ. กรเอก เพชรไชยเวส พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รองผบก.พระนครศรีอยุธยาและพ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ ผกก.สภ.อ.บางปะอิน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหารวมทั้ง 4 คน โดยจากการสอบสวนทราบว่าวันเกิดเหตุนายสุเทพ ทำหน้าที่ขับขี่รถจยย.ฮอนด้า สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซ้อนท้ายนายสุเทพ ไปหยิบกระเป๋าเงินผู้เสียหาย ส่วนนายสมฤทธิ์ ลูกชายทำหน้าที่ขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีเขียวไม่ติดแผ่นป้าย ซ้อนท้ายนายเชน ไปใช้ก้อนหินปาใส่รถบรรทุก จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ได้นำผู้ต้องหา 4 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณจุดเกิดเหตุ

ที่ถนนสายบางปะอิน-อยุธยา (สายใน) หลักกม.ที่ 9 ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  โดยจุดแรกนำตัวนายเชน ผู้ซ้อนท้ายจยย.นายสมฤทธิ์ ใช้ก้อนหินปาใส่รถบรรทุก จนรถบรรทุกเสียหลักตกลงข้างทาง ทำให้นายสมยศ ได้รับบาดเจ็บที่ตาขวา จากนั้นคนร้ายอีก 2 คน ใช้รถจยย.อีกคันตามเข้าประกบรถหกล้อและนายประทาน ตรงเข้าไปหยิบกระเป๋าคาดเอวจากเด็กรถที่นั่งมาด้วย  มีนายสุเทพ ติดเครื่องรถจยย.รอและพาหลบหนีไป ส่วนจุดที่ 2 ที่บริเวณศาลาพักผู้โดยสาร ที่ผู้ต้องหาทั้งสี่คนจอดรถจย.ร่วมกันวางแผน มีนายสุเทพ เป็นหัวหน้าผู้วางแผน โดยยอมรับสารภาพด้วยว่า ร่วมกันวางแผนมาล่วงหน้ามา1 อาทิตย์แล้ว ก่อนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ท่ามกลางประชาชน ที่ทราบมาดูการทำแผนนกว่า 500 คนต่างพากันต่างตะโกนสาปแช่งและให้ลงโทษอย่างหนัก


พล.ต.ท.รชต กล่าวว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดได้ไปที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่

ตลาดเอกเซ็นต์เตอร์ ซอย 8 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน เพื่อนำเงินในกระเป๋าไปแบ่งกัน ซึ่งมีเงินเพียง 270 บาท จึงแบ่งเงินกันคนละไม่ถึง100 บาท จากนั้นแยกย้ายกันหลบหนีไปที่ในป่าสวนชมพู่หลังวัดสัมมาราม ต.เขาขลุง อ.บ้านโปง จ.ราชบุรี เขตรอยต่อระหว่างจ.ราบุรีกับจ.กาญจนบุรี จนกระทั่งต่อมามีญาติผู้ต้องหาติดต่อเจราจาขอนำผู้ต้องหามอบตัว แต่ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.บ้านโปงและกำลังฝ่ายสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พบตัวผู้ต้องหาอยู่ในสภาพอิดโรย เดินลงมาจากเชิงเขา จึงเข้าจับกุมตัวไวได้



ผบช.ภ. 1 กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง4 คน ให้การรับสารภาพว่าต้องการเพียงเงินมาใช้สอยเท่านั้น

อ้างว่าตกงานและยากจน จึงลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปมาในเส้นทางในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขอให้สบายใจได้และต่อจากนี้ไป จะไม่ให้เกิดคดีเช่นนี้อีกโดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เพิ่มเวลาในการออกตรวจตรามีความถี่มากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงอันตรายจากแก๊งมิจชีพ แต่หากท้องที่ใดเกิดเหตุเช่นนี้อีก จะพิจารณาผู้นำหน่วยเป็นอันดับแรก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7และตำรวจทุกนายที่ร่วมกันสืบสวนจับกุมคนร้ายไว้ได้ รวมทั้งประชาชนที่ให้เบาะแส รวมทั้งญาติของผู้ต้องหาที่ให้ความร่วมมือ ส่วนเงินรางวัลจะมอบให้กับผู้ที่ชี้เบาะแสในเร็ๆนี้


ด้าน นายสุเทพ กล่าว่า ก่อนหน้านี้ก่อนไปก่อเหตุประมาณ1 อาทิตย์ ได้ไปพบหมอดู ที่ จ.ลพบุรีและได้ทำนายทายทักว่า ระยะนี้ถ้าไปทำเรื่องไม่ดี จะติดคุก

แต่ตนไม่เชื่อคำทำนาย จนมาก่อเหตุร้ายและถูกจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ในตอนแรกคิดที่จะใช้ก้อนหินปาใส่รถด้วยตัวเอง เพื่อให้รถหยุด แต่ไม่ได้มีการเตรียมอาวุธมาทำร้ายด้วย โดยจำแบบอย่างมาจากคนร้าย ที่เคยมีคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่รถ เพื่อหวังที่จะให้รถหยุดหรือเสียหลัก แล้วไปขโมยทรัพย์สินหลบหนีเท่านั้น


วันเดียวกัน นายณรงค์ เตียวตระกูลวัฒน อายุ 62 ปี เจ้าของร้านศรีอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า

ได้นำช่อดอกไม้มามอบให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายไว้ได้อย่างรวดได้อย่างรวดเร็วและยินดีจะให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี สำหรับนายสมยศ ผู้บาดเจ็บ ตนได้ไปเยี่ยมและดูอาการมาตลอด หลังจากนายสมยศ ออกจากโรงพยาบาล ทางบริษัทจะให้กลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติในตำแหน่งงานที่ไม่หนักมากนัก


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์