จับได้3เหลือ1 แก๊งปาหินรถ

ความคืบหน้าการตามล่าแก๊งคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่รถบรรทุก 6 ล้อ

บนถนนสายบางปะอิน-พระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 8-9 อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้นายสมยศ สีโชค อายุ 31 ปี คนขับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นตาขวาบอดนั้น ล่าสุดตำรวจรู้ตัวแก๊งโจรโหดพร้อมออกหมายจับแล้ว ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ต.ค. พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชนินทร์ ปรีชาหาญ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวออกหมายจับกุม 3 คนร้าย ที่ใช้ก้อนหินปากระจกรถบรรทุกให้รถเสียหลักก่อนเข้าไปปลดทรัพย์สิน ในท้องที่ สภ.อ.บางปะอิน ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายสุเทพ หรือนิ่ม พวงมาลัย อายุ 41 ปี นายสมฤทธิ์ หรือบอล พวงมาลัย อายุ 19 ปี และนายอาร์ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนยังไม่ทราบชื่อ

ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่นายสมยศ สีโชค คนขับรถ 6 ล้อบรรทุกเบียร์สิงห์ ของบริษัทศรีอโยธยา พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ตรีวิเชียร และนายวีระพล แจ้งสว่าง พนักงานประจำรถเดินทางกลับจากการส่งสินค้าให้แก่ร้านค้าต่างๆ ย่านประตูน้ำพระอินทร์ เมื่อรถวิ่งมาถึงบริเวณตลาดโก้งโค้ง ถนนสายอยุธยา-บางปะอิน กม.ที่ 8-9 ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีคนร้าย 4 คนขี่รถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน วิ่งสวนเลนขึ้นมาแล้วคนนั่งซ้อนท้ายใช้ก้อนหินน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัมปาใส่กระจกหน้ารถบริเวณคนขับ ทำให้นายสมยศได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ใบหน้าและตาข้างขวา ก่อนที่รถจะเสียหลักตกลงข้างทาง จากนั้นคนร้ายที่ขี่รถ จยย.อีกคัน เข้าไปหยิบกระเป๋าสตางค์ของนายวีระพล พนักงานประจำรถ ที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แล้วพากันหลบหนีไป 

พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า

คดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่ประชาชนให้ความสนใจเพราะกลุ่มคนร้ายไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง กล้าลงมือก่อเหตุในช่วงกลางวันแสกๆ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมากและเร่งรัดให้จับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งต่อมาทางตำรวจภูธรภาค 1 สามารถสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายคือนายสุเทพ พวงมาลัย อายุ 41 ปี เป็นอดีตพนักงานประจำรถขนส่งเบียร์สิงห์ มาก่อน วางแผนร่วมกับนายสมฤทธิ์ พวงมาลัย อายุ 19 ปี ลูกชายของนายสุเทพเอง และเพื่อนของลูกชายอีก 2 คน คือนายอาร์ม อายุ 17 ปี และอีกคนยังไม่ทราบชื่อ ลงมือก่อเหตุขว้างก้อนหินใส่รถบรรทุกเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุก่อนที่จะเข้าไปปลดทรัพย์สินในรถหลบหนีไป

ผบช.ภ.1 กล่าวต่อไปว่า วันเกิดเหตุ นายสุเทพเป็นคนขี่รถ จยย.ให้ลูกชายนั่งซ้อนท้ายเป็นคนปาก้อนหินใส่รถบรรทุก


ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีต นายสุเทพเคยเป็นพนักงานประจำรถบรรทุกขนส่งเบียร์สิงห์มาก่อน ทำให้รู้ว่ารถบรรทุกเบียร์ดังกล่าวจะมีเงินที่ได้จากการนำสินค้าไปส่งในแต่ละเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่กลุ่มคนร้ายได้เงินจากกระเป๋าสตางค์ของนายวีระพลไปเพียง 500 บาท ส่วนเงินจำนวนแสนกว่าบาทที่ได้จากการส่งสินค้านั้น อยู่ที่กระเป๋าคาดเอวของนายสมเกียรติ คนร้ายไม่ได้หยิบไปด้วยเพราะนายสมเกียรติยังรู้สึกตัวอยู่ หลังก่อเหตุทั้ง 4 คนหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ตำรวจจึงวางแผนเข้าจับกุม แต่ไหวตัวทันหลบหนีไปได้หวุดหวิด เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และโทษจำคุกตลอดชีวิต 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้มีลูกสาวของนายสุเทพ ให้ทนายความติดต่อตำรวจว่าพ่อจะขอมอบตัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกวิสามัญฯ

โดยนัดมอบตัวที่วัดธรรมาราม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีตำรวจจึงไปจับกุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 คนคือ นายสุเทพ พวงมาลัย นายสมฤทธิ์ พวงมาลัย ลูกชาย และนายอาร์ม จากนั้นคุมตัวไปเค้นสอบสวนขยายผล เนื่องจากยังมีผู้ต้องหาอีกคนที่ยังหลบหนีคือ นายประธาน ชมสมุทร์ อายุ 45 ปี ก็ถูกศาลออกหมายจับแล้ว ขณะเดียวกัน ตำรวจพบรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุแล้ว เป็นรถ จยย.ฮอนด้า CBR สีแดงดำ ทะเบียน ลขม 37 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ในบ้านของนายดำ ไม่ทราบนามสกุล ในซอยเทศบาล 8 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงยึดไว้เป็นของกลาง โดยในวันที่ 23 ต.ค. ผบช.ภ.1 จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์