เจ้าทุกข์แจ้งตร.จับ! โจรแฉกลับเลยซวย
โจรปล้นโจร แก๊งโจ๋ขี้ยาเมือง สุราษฎร์ บุกปล้นพ่อค้ายาบ้าในม่านรูด ได้ทั้งเงินและยาบ้าแต่เจ้าทุกข์จำทะเบียนรถได้ แจ้งตร.ตามรวบได้ครบแก๊ง สารภาพนัดให้มาส่งยาบ้าแต่หาเงินไม่ทัน เลยสวมรอยเป็นโจรดักปล้น หลังสอบเสร็จตร.ย้อนกลับไปหาเจ้าทุกข์ ที่ยังไม่รู้ตัวว่าโดนแฉรวบไว้ได้ทั้งหมด 3 คน เจอของกลางยาบ้าที่เหลืออยู่อีก 4 เม็ด ส่งดำเนินคดีข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 21 ต.ค.
ร.ต.ท.อิสมาแอล ใบหา ร้อยเวร สภ.อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ที่โรงแรมเพชรอินน์ ถนนเลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงพร้อมด้วยพล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก.สภ.อ.เมือง, พ.ต.ท.นพดล ถิรประวัติ รองผกก.สส., พ.ต.ท.วรวิทย์ เจริญศุภผล สว.สส. และร.ต.ท.สนธยา ปานแป้น รองสว.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าห้องพักเลขที่ 113 ของโรงแรมดังกล่าว
พบนายอภินันท์ มีหาดยาย อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/6 ถ.ท่าล้อ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี, น.ส.ทิพย์รัตน์ คงแผน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/62 หมู่ 2 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ และนายวราวุฒิ โกมลฐิติ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/14 หมู่ 4 แขวงบางพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ โดยนาย วราวุฒิมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเลือดไหล เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลตรวจสอบภายในห้องพักพบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของถูกรื้อค้น
4โจ๋บุกม่านรูด ปล้นแก๊งยาบ้า
นายอภินันท์ให้การว่า ตนและเพื่อนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาท่องเที่ยว
โดยเปิดห้องดังกล่าวพัก จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนมีคนร้ายประมาณ 4 คน มาเคาะห้องให้เปิดประตู ก่อนจะเข้ามาใช้อาวุธปืนบังคับเอาผ้าปิดตาและใช้ลวดมัดมือไพล่หลัง ใช้อาวุธปืนฟาดศีรษะนายวราวุฒิอย่างแรงจนศีรษะแตกและรื้อค้นเอาทรัพย์สินไป พอตั้งสติได้จึงวิ่งออกมาดูพบว่าคนร้ายใช้รถกระบะมาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน บย 3608 สุราษฎร์ธานี ขับหลบหนีไป จึงร้องขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม
ต่อมาเวลา 06.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 100/1 ม.8 ต.ถ้ำสิงขร อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
หลังสืบพบว่าคนร้ายที่ก่อหตุหลบมาซ่อนตัวอยู่ โดยแกะรอยจากทะเบียนรถที่เจ้าทุกข์จำได้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 4 คน ประกอบด้วยนายสุรสีห์ หรือบ่าว ทองคำ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 6 ต.ถ้ำสิงขร อ.คีรีรัฐนิคม, นายเอกพงษ์ หรือปาล์ม พรหมากร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/1 หมู่ 7 ต.ถ้ำสิงขร อ.คีรีรัฐนิคม, นายกิตตินันท์ หรือดุก มีเพ็งจันทร์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 391/158 หมู่ที่ 4 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และนายปฐมพงษ์ หรือติ่ง น้อยมา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 2 ต.บางเดือน อ.พุนพิน พร้อมรถยนต์กระบะมาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน บย 3608 สุราษฎร์ธานี 1 คัน ปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทอง 1 วง บัตรเอทีเอ็ม 4 ใบ บัญชีเงินฝาก 1 เล่ม นาฬิกา 1 เรือน ยาบ้า 41 เม็ด
สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือปล้นทรัพย์จริง
โดยหาเงินเพื่อไปซื้อยาเสพติดไว้เสพ นอกจากนี้นายสุรสีห์ยังให้การต่ออีกว่า รู้จักกับนายอภินันท์ หนึ่งในเจ้าทุกข์ เพราะเป็นคนนำยาบ้ามาขายให้กับวัยรุ่นในย่านนี้ ก่อนเกิดเหตุนัดว่าจะไปซื้อยาบ้า แต่หาเงินไม่ทันจึงก่อเหตุปล้นดังกล่าว เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้าจากนายอภินันท์นั่นเอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อการหลบหนีและได้กันตัวผู้เสียหายทั้ง 4 ไว้สอบสวนขยายผลการชัดทอดของกลุ่มคนร้ายเรื่องยาเสพติดต่อไป
หลังได้ข้อมูลจากผู้ต้องหา ตำรวจจึงย้อนกลับไปที่โรงแรมเข้าควบคุมตัวนายอภินันท์ กับพวก
จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 4 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดีต่อไป