รวบตำรวจกำมะลอตุ๋นเรียกเงินเหยื่อนับสิบล้าน

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2549 02:25 น.

คอมมานโดรวบตำรวจกำมะลอ ตุ๋นเงินเด็กหัวละล้านนับสิบราย หลอกช่วยเข้าเรียนเตรียมทหาร เหยื่อโร่แจ้งความหลายท้องที่ สุดท้ายหนีไม่รอดถูกจับกุมได้คาสถาบันกวดวิชาฯ เผยประวัติสุดแสบ ทำมาตั้งแต่เป็นนักเรียนนายร้อย พอขึ้นปี 2 ถูกอัปเปหิ ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ฯ

เมื่อเวลา 21.00 น.วานนี้ (22 เม.ย.49) พ.ต.ต.กฤษฎา สนธิ สว.ปฏิบัติราชการ กก.ปพ.บก. ป. พร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง ได้เข้าจับกุมนายณรงค์เดช ธรรมมะ อายุ 25 ปี หรือนายอลงกรณ์ กิตสุวรรณ อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.7 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ในความผิดมีและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม โดยจับกุมได้ที่บริเวณข้างสถาบันกวดวิชา คาร์เด็ท โฟร์กรุ๊ป & กราฟฟิก คอม เซ็นเตอร์ เลขที่ 243/60 - 61 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

พ.ต.ต.กฤษฎา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเห็นนายณรงค์เดช เดินออกมาจากสถาบัน โดยถือแฟ้มเอกสาร และสะพายกระเป๋าสีดำ เดินไปที่รถยนต์เบนซ์ หมายเลขทะเบียน วภ 3833 กทม.รุ่น c 200 เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้นภายในตัวพบอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ กล็อก รุ่น 26 ขนาด 9 ม.ม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาด 9 ม.ม.จำนวน 40 นัด บรรจุอยู่ในแมกกาซีนจำนวน 2 แมกกาซีน และบรรจุในกระเป๋า สีดำ จำวน 20 นัด ซองใส่อาวุธปืน 1 ซอง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง แผ่นพับกวดวิชาสถาบัน คารร์เด็ดฯ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่รัฐปลอม ใช้ชื่อในบัตรว่า ร.ต.ท.ณรงค์เดช ธรรมมะ สังกัดรองสารวัตร งาน 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจนครบาล 1

พ.ต.ต.กฤษฎา กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ อดีตเคยมีหมายจับของส.น.ลุมพินี ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 46 ในข้อหาร่วมกันเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทน ในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย หรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือโทษแก่บุคคลใด และในความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์

พ.ต.ต.กฤษฎา กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติสอบเข้าเรียนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจเมื่อปี 45 รุ่น 56 แต่ภายหลังพอขึ้นปี 2 ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เนื่องจากว่าถูกร้องเรียนว่า ฉ้อโกงทรัพย์สิน โดยตั้งสถาบันกวดวิชาแนะแนวกวดวิชาเตรียมทหารและเรียกรับเงินจากผู้ปกครองเด็กรายละ 1 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าไม่สามารถช่วยเหลือเด็กเข้าเรียนได้ จนต่อมา ปี 49 มีผู้เสียหายจำนวน 10 ราย ที่เสียเงินไปรายละ 1 ล้านบาทไม่สามารถเข้าเรียนนายร้อยได้ จึงไปแจ้งความไว้หลายท้องที่