เหตุการณ์ครั้งนี้นักถ้ำมองทั้งหลายต้องดูเอาไว้เป็นเยี่ยงอย่าง
เมื่อนายประทีป สีมา ก่อเหตุสัปดนปีนช่องสำหรับเดินท่อน้ำในแฟลตปลาทอง ย่านรังสิต แอบดูผู้หญิงอาบน้ำ แต่เหยื่อรู้ตัวร้องโวยวายลั่นจนต้องหนีตาลีตาเหลือกออกมาจากห้อง ระหว่างทางยังอุตส่าห์ไปเจอสาวนุ่งกระโจมอกอีกคนกำลังจะอาบน้ำ เลยเกิดอารมณ์หื่นบุกเข้าปล้ำ แต่เหยื่อสาวร้องเอะอะโวยวายจนต้องผละหนีลงไปทางท่อน้ำทิ้งของแฟลต และด้วยความรีบร้อนเลยร่วงจากชั้น 4 ตกลงไปอยู่ชั้นล่างของแฟลต ติดแหง็กอยู่ในนั้นนานกว่า 5 ชั่วโมง กว่าจะมีคนมาช่วยออกไปได้ ไม่เป็นผีเฝ้าท่อก็บุญแล้ว!?!
ย้อนกลับไปดูเหตุระทึกครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนตี 1 วันที่ 15 ต.ค.
ขณะที่ด.ต.จีรศักดิ์ อิสระตระกูลวงศ์ พร้อมด้วย ด.ต.อนันต์ นามโพด ตำรวจสายตรวจสภ.ต.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี กำลังออกตรวจอยู่ในแฟลตรังสิตซิตี้ หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ "แฟลตปลาทอง" ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี เมื่อถึงหน้าแฟลต 135 ได้พบกับนายบุญเลี้ยง พลเรียง หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบอกว่าที่ข้างๆ อาคารแฟลต ซึ่งเป็นส่วนของท่อน้ำทิ้งที่ติดตั้งอยู่ในอาคาร เกิดมีเสียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งดังเล็ดลอดออกมาอย่างน่าฉงน ตำรวจทั้ง 2 นายจึงตามไปท้าพิสูจน์ความจริงให้รู้กัน เมื่อเอาหูแนบฟังก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังออกมาเช่นกัน
ในตอนแรกทุกคนนึกว่าโดนผีหลอก แต่เมื่อตะโกนถามแล้วมีเสียงตอบจึงเป็นอันว่าในนั้นมีคนติดอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ในท่อน้ำทิ้งเป็นคนแน่ๆ เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาช่วยกันนำค้อนปอนด์มาทุบอาคารช่วงท่อน้ำทิ้งออกเพื่อให้ความช่วยเหลือ ปฏิบัติการช่วยชีวิตคนตกท่อจึงเริ่มขึ้น
บทเรียนนักถ้ำมอง ตกท่อน้ำทิ้ง-ติดทุรน อลหม่านแฟลตปลาทอง
เจ้าหน้าที่ช่วยกันสกัดปูนออกอย่างระมัดระวัง
เมื่อช่องปูนทะลุจึงพบร่างชายใส่กางเกงกีฬาขาสั้น สีดำ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล ซึ่งไม่รู้ว่ามุดมาจากไหน ร่างกายติดทับอยู่ กับท่อระบายน้ำห้อยโตงเตงอย่างน่าเสียวไส้ ร่างของชายผู้นี้รูดไปกับปูนจนถลอกปอกเปิกไปทั้งตัว เห็นเนื้อแดงและเลือดไหลซิบๆ ตลอดเวลาหมอนี่อยู่ในอาการหนาวสั่น เพราะถูกขังไว้ในช่องท่อระบายน้ำมานานกว่า 5 ชั่วโมงแล้ว
เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่าชั่วโมงจึงสามารถนำร่างออกมาได้อย่างทุลักทุเล
สอบถามชื่อเสียงเรียงนาม ทราบชื่อ คือ นายประทีป สีมา อายุ 26 ปี บ้านเดิมเลขที่ 1/2 หมู่ 3 ต.ทงบี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พักอยู่แฟลตปลาทองแห่งนี้ ที่ห้องเลขที่ 390/31 ชั้น 3 จึงนำมาปฐมพยาบาลให้ข้าวให้น้ำกิน เนื่องจากร่างกายอิดโรยมาก คำถามแรกที่ทุกคนสงสัยคือ ทำอย่างไรจึงได้เข้าไปติดอยู่ในช่องท่อน้ำทิ้งแบบนี้ ด้านนายประทีบเมื่อถูกซักเข้ามากๆ ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพแต่โดยดี "ผมเพิ่งปีนดูผู้หญิงอาบน้ำแต่เขารู้ตัวส่งเสียงร้องเลยหนีลงทางท่อน้ำทิ้งทำให้ติดแหง็ก อยู่อย่างนี้" จากผู้ประสบเหตุกลายเป็นผู้ต้องหาทันที
นายประทีปเล่าว่า ช่วง 1 ทุ่มก่อนเกิดเหตุได้ขึ้นไปที่ชั้น 4 แล้วปีนขึ้นไปแอบซ่อนตัวอยู่ใต้ฝ้าในห้องสาวทอมกับดี้เพื่อแอบดูสาวอาบน้ำ
ระหว่างนั้นเจ้าของห้องเห็นเข้าแล้วร้องเรียกให้คนช่วย จึงหนีออกมาทางท่อน้ำทิ้งของอาคารไปโผล่ที่ชั้น 3 เพื่อที่จะกลับเข้าห้องตัวเอง แต่ระหว่างที่หลบหนีกลับห้อง ดันไปโผล่ห้อง 390/41 เห็นหญิงสาวนุ่งกระโจมอกอยู่จึงเกิดอารมณ์และคิดจะเข้าไปข่มขืน แต่หญิงสาวคนนั้นได้ร้องเรียกให้คนช่วย จึงรีบหนีออกทางท่อน้ำทิ้งอีกครั้ง คราวนี้เสียหลักทำให้ร่างตกลงมาจากชั้น 4 ถึงชั้น 1 ซึ่งไม่มีทางออก และได้พยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน ติดอยู่ในนั้นนานกว่า 5 ชั่วโมง ตอนแรกนึกว่าจะไม่รอด เพราะไม่มีอากาศหายใจ อีกทั้งยังหนาวสั่นเพราะเปียกน้ำตลอด ตนจึงพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเป็นพักๆ จนกระทั่งมีคนได้ยินและพากันมาช่วย "งานนี้เข็ดจนตายไม่เอาอีกแล้ว"
หลังทราบข้อเท็จจริงตำรวจรีบตามหาผู้เสียหายทันที
พบว่าสาวที่ถูกนายประทีปแอบดูชื่อ น.ส.ตุ๊ดตู่ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ให้การว่า ช่วงค่ำได้มีชายปีนมาหน้าประตูห้องน้ำขณะที่ตนนุ่งกระโจมอกจะเข้า ไปอาบน้ำ ด้วยความตกใจจึงออกมานอกห้องตะโกนเรียกให้คนช่วย และมีเพื่อนห้องข้างเคียงหลายคนเข้ามาช่วยกันตามหา แต่ไม่พบตัว มีแต่รอยเลือดหยดตามพื้นห้องและที่หน้าประตูห้อง ไม่รู้ว่ามันหนีลงไปทางช่องท่อน้ำทิ้งตอนไหน จนกระทั่งมีคนมาบอกว่าตำรวจจับคนถ้ำมองได้ ปีนหนีไปติดอยู่ในช่องท่อน้ำทิ้งด้านล่างจึงลงมาดูก็พบว่าเป็นคนคนเดียวกับที่แอบดูตนอาบน้ำเมื่อตอนค่ำนั่นเอง
ทั้งนี้ ผู้เสียหายไม่เอาเรื่องนายประทีป เพราะเห็นว่าลำพังตัวมันก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว
ไหนจะต้องมาจ่ายค่าโบกปูนและค่ารักษาตัว ก็น่าจะเป็นบทลงโทษที่สาสม แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายประทีปข้อหาบุกรุกสถานที่ในยามวิกาลลงโทษปรับแล้วปล่อยตัวไป พร้อมกำชับว่าคราวหน้าคราวหลังอย่าทำอีก!!
พฤติกรรมถ้ำมองอย่างนายประทีป พ.ญ.ศุภรัตน์ เอกอัศวิน ผอ.สำนักพัฒนาสุขภาพจิต ออกมาแสดงทรรศนะว่า
ลักษณะของผู้ที่ถ้ำมองผู้อื่นยังไม่ถึงขนาดที่เป็นโรคจิตตามคำจำกัดความทางจิตวิทยา แต่เป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัว มีความรู้สึกด้อยในการสร้างสัมพันธภาพทางเพศ การได้แอบดูผู้อื่นอาบน้ำจะทำให้รู้สึกมีความสุข คนประเภทนี้หากต้องสร้างสัมพันธภาพทางเพศกับผู้อื่นจริงๆ จะไม่สามารถทำ ได้ อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติลักษณะนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ไม่สามารถที่จะบำบัดได้ด้วยตัวเอง ต้องเข้ารับการบำบัดตามกระบวนการทางจิตวิทยา