จับสาวลักฝาแฝดเด็กปลอดภัยอ้างน่ารัก-เลยฉกหนี
ที่แท้ฝีมืออดีตผู้ช่วยหมอฟันตกงาน!พ่อสุดดีใจ-ส่งตรวจตีเอ็นเอ
พบแล้ว น้องแนน แฝดผู้พี่ที่ถูกลักพาตัวไปจาก รพ.ลบบุรี คนร้ายอดีตเป็นผู้ช่วยหมอฟันที่กำลังจะไปสมัครงานที่โรงพยาบาล เดินผ่านหน้าห้องไปได้ยินเสียงเด็กร้อง ประกอบกับเพิ่งแท้งลูกจึงอยากได้ ควักเสื้อคลุมที่ไส่ทำงานออกมาสวมแล้วเข้าไปในห้อง พบแม่เด็กเข้าห้องน้ำ ส่วนพ่อเด็กกำลังหันหลังพูดโทรศัพท์จึงอุ้มออกมา พากลับมาที่ห้องพักย่านนวนคร แล้วเรียกสามีมารับกลับไปศรีสะเกษ พอถึงบ้านเด็กเกิดป่วยจึงพาไปหาหมอที่อนามัย และถูกส่งต่อไป รพ.ราษีไศล แพทย์-พยาบาลสงสัย แจ้งตำรวจมาตรวจสอบเรื่องจึงคลี่คลาย รอง ผบช.ภ.1 ขึ้น ฮ.บินด่วนไปสอบสวนผู้ต้องหาพร้อมเด็กน้อยทันที ด้านพ่อแม่เด็กสุดดีใจ เตรียมขึ้นไปรับลูกเป็นการด่วนพร้อม "ปวีณา" เผยถ้าไม่แน่ใจก็จะขอให้หมอตรวจดีเอ็นเอ
กรณีสาวแสบลักพาตัวน้องแนน แฝดผู้พี่ ลูกสาวของนายสุพรต ขันทองดี อายุ 29 ปี กับนางราตรี ตระการจันทร์ อายุ 22 ปี จาก รพ. ลพบุรี หายตัวไปตั้งแต่หลังวันสงกรานต์ สร้างความวุ่นวายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปดส. ได้บุกไปจับกุมตัว น.ส. สาคร คำโต อายุ 24 ปี เมียน้อยของนายสุพรต มาจาก จ.อุดรธานี โดยในเบื้องต้น น.ส.สาครก็ให้การรับสารภาพ แต่พอนำตัวมาถึง จ.ลพบุรี น.ส.สาครกลับคำให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาเด็ก ไป และต่อมาก็มีการแจ้งความอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมให้รับสารภาพอีกต่างหาก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหันมามุ่งประเด็นแก๊งลักพาเด็ก และเริ่มต้นสอบสวนกันใหม่อีกครั้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 เม.ย. พ.ต.อ.ประชา ศรีพจน์ธรรม ผกก.สภ.อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจาก รพ.ราษีไศล ว่ามีหญิงสาวนำเด็กหญิงอายุประมาณ 10 วันซึ่งป่วยมารักษาตัว น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นน้องแนนที่หายตัวมาจาก รพ.ลพบุรี หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.เชิด ชูเวช ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เดินทางไปที่โรงพยาบาล พบ น้องแนน มีอาการป่วย แพทย์และพยาบาลได้นำตัวเข้าตู้อบเด็กโดยเร่งด่วนและเด็กมีอาการปลอดภัยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชี้ว่า น.ส.พิมพ์ภา เป็นผู้อุ้มเด็กมารักษาตัว และดูสภาพแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแม่เด็กที่เพิ่งคลอดลูกออกมา จึงสงสัยว่าอาจจะเป็นเด็กที่ถูกขโมยตัวออกมาจาก รพ.ลพบุรี ก็ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว น.ส.พิมพ์ภา ไป สอบสวน
ทราบชื่อ น.ส.พิมพ์ภา อ่อนทอง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/1 ถนนบวร ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในครั้งแรก น.ส. พิมพ์ภา ไม่ยอมรับ แต่เมื่อสอบสวนต่อไปจึงยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่าเป็นผู้ลักพาตัวน้องแนน มาจาก รพ.ลพบุรีจริง เนื่องจากตนเองเป็นคนรักเด็กและตนกับสามีอยากมีลูก เมื่อมาเห็นเด็กยิ้มและหัวเราะให้กับตนเอง จึงเกิดรักเด็ก และอุ้มเอาตัวออกมาจากโรงพยาบาล โดยก่อนหน้านั้นตนเคยทำงานเป็นผู้ช่วยหมอฟันอยู่ที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านนวนคร จ.ปทุมธานี ต่อมาคลินิกเลิกกิจการ จึงหาสมัครงานทางอินเทอร์เน็ต และพบว่าที่ รพ.ลพบุรีกำลังต้องการผู้ช่วยแพทย์ จึงเดินทางไปเพื่อสมัครงาน ขณะเดินผ่านห้องผู้ป่วยพิเศษได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ จึงเดินเข้าไปดู พบว่าแม่เด็กกำลังเข้าห้องน้ำ ส่วนพ่อเด็กกำลังหันหลังพูดโทรศัพท์ว่าเมียพี่คลอดลูกแล้ว อย่ามายุ่งกับพี่อีก
น.ส.พิมพ์ภา ให้การต่อว่า ตลอดเวลาเห็นเด็กยิ้มและหัวเราะให้กับตน จึงเกิดความรักอย่างจับใจ จึงอุ้มเด็กออกมาจากห้อง และนำกลับมาที่ห้องพักที่นวนคร และอยู่ที่นั่นตลอด เพิ่งเดินทางกลับมาหาสามีที่บ้านเลขที่ 4 บ้านสร้างแก้ว หมู่ 7 ต.สร้างปี่ อ.ราษีไศล เมื่อไม่กี่วันนี่เอง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน น้องแนนไม่เคยร้องไห้ จนมาวันนี้น้องแนนเกิดร้องไห้ คล้ายไม่สบาย จึงพาไปที่อนามัยใกล้บ้าน หมอบอก ว่าเด็กตัวเหลือง คล้ายไม่สมบูรณ์ และส่งต่อให้มารับการรักษาที่ รพ.ราษีไศล เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้นำตัวเด็กเข้าห้องตู้อบเด็กทันที ส่วนตนเองก็นั่งรออยู่ จนกระทั่งตำรวจมา
น.ส.พิมพ์ภา ให้การด้วยว่า เดิมตนเคยมีสามีมาก่อน และเพิ่งแท้งลูกไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ ต่อมาได้มาอยู่กินกับ นายทองสวย คันศร อายุ 23 ปี ที่ อ.ราษีไศล โดยที่ตนเองและสามีต่างก็อยากมีลูกด้วยกันทั้งคู่ เมื่อไปที่โรงพยาบาลและได้พบกับน้องแนน จึงเกิดความคิดที่จะได้มาเลี้ยงเป็นลูก จึงเอาเสื้อคลุมที่เคยใช้ตอนเป็นผู้ช่วยหมอฟัน ออกมาสวมแล้วเข้าไปในห้องคนไข้พิเศษของ รพ.ลพบุรี และอุ้มเด็กออกมาดังกล่าว
ต่อมาเวลา 16.45 น. พล.ต.ต.ชนินทร์ ปรีชาหาญ รอง ผบช.ภ.1 รักษาการ ผบก.ภ.จว. ลพบุรี ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่ รพ.ราษีไศล ร่วมสอบสวน น.ส.พิมพ์ภา และ นายทองสวย สามี พร้อมกับตรวจดูเด็กที่ถูกอบอยู่ในตู้อบ ซึ่งเชื่อว่าจะใช่น้องแนน ที่ถูกลักพาตัวมาจริง อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตรวจดีเอ็นเอเด็กอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ โดย พล.ต.ต.ชนินทร์ เตรียมที่จะนำตัว น.ส.พิมพ์ภา นายทองสวย และน้องแนน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับไปที่ จ.ลพบุรีเพื่อสอบสวนโดยละเอียดต่อไป
พล.ต.ต.ชนินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเด็กแข็งแรงดี รวมทั้งแพทย์และพยาบาลก็ยืนยันว่าเด็กสามารถเดินทางได้ จึงจะนำตัว น.ส.พิมพ์ภา พร้อมสามี และน้องแนน ไปที่ จ.ลพบุรี แต่ในขณะนี้เครื่องเฮลิ คอปเตอร์ไม่สามารถขึ้นบินได้ เนื่องจากมีฝนตกหนัก ขณะนี้จึงได้เตรียมรถตู้ 2 คันมีรถตำรวจทางหลวงนำ ออกเดินทางมายัง จ.ลพบุรี ทันที คาดว่าจะถึงในเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 22 เม.ย. แต่ในการสอบสวนเบื้องต้น น.ส. พิมพ์ภา รับสารภาพแต่โดยดีว่ารักเด็กและอยากได้ไปเลี้ยง
"เธอสำนึกผิด บอกว่าเธอเป็นคนเลวที่ลักลูกเขามา แต่ผมบอกว่าไม่เลวดอก และต้องขอขอบคุณที่เลี้ยงดูเด็กอย่างดี แต่ถ้าเด็กเกิดเสียชีวิตสิ คุณจะกลายเป็นนางมารร้ายทันที" รอง ผบช.ภ.1 กล่าว
ต่อมานายสุพรต กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นแสดงความดีใจว่า จะเดินทางไปรับลูกทันที อยากจะเห็นหน้าลูก ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ และมูลนิธิปวีณาฯ รวมทั้งสื่อมวลชน ที่ให้การช่วยเหลือและจะได้บวชตามที่ได้เคยบนบานต่อศาลพระกาฬ และวัดไชโยไว้ ส่วนนางราตรี กล่าวว่า ดีใจ เพราะหลังจากคลอดลูกได้สองวันก็จากกันแล้ว ถ้าหากเขาไปตัดผมลูก หรือหน้าตาเปลี่ยนแปลงไป และเปรียบเทียบกันน้องนุ่นแล้วไม่แน่ใจ ก็คงจะขอตรวจดีเอ็นเอ ถึงอย่างไรก็ยังดีที่ลูกไม่เป็นอันตราย
มีรายงานจาก บก.ปดส. วันเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปดส. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่ามีหญิงต้องสงสัย มาแจ้งขอทำใบเกิดเด็กที่ อ.คลองหลวง จึงไปตรวจสอบพบ น.ส.พิมพ์ภา อ่อนทอง และนายทองสวย คันศร สามีมาแจ้งเกิดเด็กหญิง พราวมุก สุวานนท์ ว่าเกิดเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 49 ที่ รพ.พรชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี แต่พฤติการณ์น่าสงสัย จึงสอบสวนขอหลักฐาน นายทองสวย ให้การว่าทำงานอยู่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในย่านคลองหลวง ส่วนภรรยาทำงานเป็นผู้ช่วยหมอฟัน ที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านนวนคร และกำลังจะกลับไปที่บ้านที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนำบุตรสาวที่เพิ่งเกิดไปเลี้ยงที่นั่น
เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบหลักฐานการเกิด แต่ทั้งสองคนแจ้งว่าไม่ได้ขอมา จึงสอบถามเรื่องคดีขโมยเด็กที่ จ.ลพบุรี แต่ทั้งสองคนให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้เรื่อง เพียงแต่นายทองสาย เพิ่งปลดประจำการออกมาจากการเป็นทหารที่ จ.ลพบุรี แต่ยืนยันว่าเป็นบุตรสาวจริง ๆ รวมทั้งยังมีพยานใกล้เคียงมายืนยันด้วยว่า น.ส.พิมพ์ภา ตั้งท้องจริง ๆ แต่คลอดก่อนกำหนด จึงทำให้เด็กมีตัวเล็กกว่าปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปดส. จึงบันทึกหลักฐานไว้แล้วปล่อยตัวไปโดยจดฐานที่อยู่ไว้โดยละเอียด และในที่สุดก็ใช่คนร้ายลักเด็กจริง ๆ.