เหยื่อปาหินปลื้มสมเด็จฯทรงช่วย หมอชี้ถึงตาบอดล่าแก๊งปล้นเหลว

จากคดีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์สวนทางกับรถบรรทุกหกล้ออีซูซุสีเหลือง หมายเลขทะเบียน 80-9062 พระนครศรีอยุธยา

ใช้ก้อนหินปาใส่กระจกรถบรรทุก ทะลุถูกศีรษะนายสมยศจนกะโหลกร้าว ตาขวาทะลักออกมา ทำให้รถเสียหลักตกคูน้ำริมถนนสายบางปะอิน-พระนครศรีอยุธยาสายใน กม.8-9 ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่คนร้ายจะฉวยโอกาสชิงเอากระเป๋าใส่เงินที่วางไว้บนคอนโซลหน้ารถหนีไป คาดว่าคนร้ายวางแผนใช้หินปาใส่รถหวังให้ประสบอุบัติเหตุเพื่อชิงทรัพย์นั้น

ความคืบหน้าการรักษาอาการเหยื่อแก๊งปาหิน เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 ต.ค.

พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมอาการนายสมยศ สีโชค คนเจ็บ ก่อนที่คณะแพทย์จะเคลื่อนย้ายนายสมยศส่งต่อไปรักษาตัวที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการรักษาอาการทางสายตาและสมองโดยเฉพาะ เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับนายสมยศเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

นายสมยศเหยื่อแก๊งโจรเปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
 
พระองค์ท่านมีพระเนตรที่กว้างไกลมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชนทุก หย่อมหญ้า และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทันที ตนเป็นคนงานจนๆคนหนึ่ง แต่ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน ครั้งนี้ถือเป็นที่สุดของชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงจะเจ็บหนักแต่ต้องการให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวรมีพระพลานามัยแข็งแรงด้วยเช่นกัน ส่วนนางบุญส่ง สีโชค อายุ 29 ปี ภรรยาเหยื่อก้อนหินกล่าวว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ พยาบาลที่ดูแลสามีเป็นอย่างดี
 
ด้าน นพ.วีระพล ธีระพันธ์เจริญ ผู้อำนวยการ รพ.ศูนย์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า

ดวงตาข้างขวาของนายสมยศ ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักจากแรงที่ถูกปาด้วยก้อนหิน จากการตรวจพบว่ามีเลือดคั่งมาก ระบบและประสาทตาเสียทำให้มองไม่เห็นในขณะนี้ แพทย์ได้พยายามรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะกลับมามองเห็นเหมือนเดิมหรือไม่ สำหรับระบบประสาทในสมองเริ่มเป็นปกติแล้ว


ต่อมาเวลา 09.45 น. นายสมยศ สีโชค ถูกส่งตัวมาถึง รพ.จุฬาลงกรณ์ คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนำโดย รศ.นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ ตรวจประเมินก่อนจะส่งไปพักที่ห้อง 210 ชั้น 2 ตึกจงกลนี วัฒนวงศ์

ซึ่ง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมอาการป่วยของนายสมยศ พร้อมเปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับนายสมยศเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ได้กำชับให้ตำรวจภูธรภาค 1 รีบจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุอีก เหตุครั้งนี้เกิดตอนกลางวันแสกๆ ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก รวมทั้งให้ตำรวจท้องที่ ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยวช่วยกันหามาตรการป้องกัน เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ทาง ผบ.ตร. ได้คาดโทษให้ท้องที่ที่เกิดเหตุต้องรับผิดชอบ และฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ทราบเบาะแสช่วยแจ้งตำรวจด้วย

ส่วนนายสมยศ คนเจ็บ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่รู้ตัว รู้สึกวูบไปเฉยๆ และไม่เห็นหน้าคนร้าย

ตอนนี้รู้สึกปวดตาเป็นอย่างมาก ส่วนคดีนั้นอยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเกรงว่าจะไปขว้างหินใส่รถคนอื่นอีก ต่อมาคณะแพทย์ที่รักษาอาการนายสมยศ ประกอบด้วย รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ และคณบดีแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ รศ.นพ.สมพงษ์ สุวรรณวลัยกร รอง ผอ.รพ.ฝ่ายบริการ รศ.นพ.จรัญ มหาทุมะ-รัตน์ หัวหน้าหน่วยศัลยศาสตร์ ตกแต่งและเสริมสร้าง และหัวหน้าศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อ.นพ.อดิศัย วราดิศัย จักษุแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจรักษานายสมยศว่า ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี สัญญาณชีพต่างๆอยู่ในเกณฑ์ปกติ พูดคุยได้ดี ใบหน้าด้านขวาบวม มีบาดแผลบริเวณขมับและโหนกแก้มขวา ซึ่งเย็บแผลมาจาก รพ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจพบตาขวาบวมมากและลูกตามีการบาดเจ็บรุนแรง มีการบาดเจ็บเส้นประสาทใบหน้าด้านขวา ใบหน้าขวาไม่สามารถขยับได้ เมื่อเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แล้วพบว่ากระดูกเบ้าตาขวาแตกละเอียด มีชิ้นกระดูกกดทับเส้นประสาท กระดูกโหนกแก้ม กระดูกกรามบนแตกละเอียด และลูกนัยน์ตาแตก ส่วนกระดูกต้นคอและส่วนอื่นของร่างกายปกติ 

รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า อาการผู้บาดเจ็บอยู่ในขั้นรุนแรง

ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถเก็บลูกตาขวาไว้ได้หรือไม่ เพราะจอรับภาพด้านในทะลักออกมา โครงสร้างกระดูกเปลี่ยนไป และทาง รพ.พระนคร-ศรีอยุธยา ตัดกระดูกออกไปบางส่วน ซึ่งหากลูกตารับแสงไม่ได้ก็จำเป็นต้องนำลูกตาออก เนื่องจากจะมีผลกระทบกับตาด้านซ้ายที่ยังดีอยู่ โดยจะใส่วัสดุสังเคราะห์เข้าไปแทน ซึ่งในวันที่ 19 ต.ค.นี้ คณะแพทย์จะผ่าตัดเรียงกระดูกด้วยเหล็กสกรู และจะทราบผลว่าจะต้องนำลูกตาขวาออกหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าในการล่าตัวแก๊งโจรปาหินชิง ทรัพย์ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า


ได้ประชุมตำรวจสังกัด บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และ ศสส.ภ.1 เร่งให้จับกุมคนร้ายโดยเร็วที่สุด ซึ่งหลังจากออกภาพสเกตช์ คนร้าย เป็นคนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ใช้หินปาใส่ รถ ชุดสืบสวนได้นำภาพสเกตช์ออกกระจายไปทั่วตลาดบางปะอิน มี รปภ. พนักงานนวดแผนโบราณ และกลุ่มวิน จยย.รับจ้างตลาดเอกเซ็นเตอร์ อ.บางปะอิน และชาวบ้านอีกหลายราย แจ้งเบาะแสว่าเคยเห็นคนร้ายใช้รถจักร-ยานยนต์ฮอนด้า ซีวีอาร์ แบบผู้ชาย สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตระเวนเก็บดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบจากแม่ค้าในตลาดเอกเซ็นเตอร์ ช่วงเวลา 15.00 น. เป็นประจำ

ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ตำรวจได้พยานเป็นคนขับเรือรับจ้างใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นคนร้าย 4 คน ไม่ใช่คนในพื้นที่

ท่าทางมีพิรุธนั่งอยู่ในศาลาพักผู้โดยสารริมถนน มีรถจักรยานยนต์สีเขียว 1 คัน และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวีอาร์ สีดำแดง 1 คัน จอดอยู่ใกล้กัน โดยหนึ่งในนั้นมีลักษณะคล้ายภาพสเกตช์คนร้ายที่ออกไว้ แล้ว ซึ่งตำรวจได้สเกตช์ภาพคนร้ายที่เหลืออีก 3 คน ไว้ แล้ว และได้ตั้งธงกลุ่มคนร้ายเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มวัยรุ่นในเขต อ.บางปะอิน, กลุ่มพนักงานเก็บดอกเบี้ยเงินกู้รายวัน หรืออดีตคนงานบริษัทส่งเบียร์ที่คนเจ็บทำงานอยู่ โดยคนร้ายน่าจะมีเกินกว่า 3 คน และทำงานกันเป็นทีม มีคนดูต้นทาง คนลงมือ คนเข้าไปชิงทรัพย์


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์