"นายรี พุน จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นอกจากนี้ เราจะต้องขยายผลต่อไปว่าคนร้ายเคยก่อคดีไว้ที่อื่นหรือไม่เนื่องจากคนร้ายเป็นคนเขมรหลบหนีเข้าเมือง ทำให้ไม่รู้ที่มาที่ไป ใครสงสัยขอให้มาดูตัวได้ที่สน.พระโขนง"
คือ คำกล่าวของพ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รอง ผบก.น.5 หลังนำทีมปิดคดีฆ่าปาดคอแม่เฒ่าลงได้สำเร็จ
ได้ตัวคนร้ายคือนายรี พุน อายุ 27 ปี ชาวกัมพูชา มาชดใช้กรรมที่ทำไว้ ใจคอช่างโหดร้ายฆ่าได้แม้กระทั่งหญิงชราไม่มีทางสู้!! นางอุ้ม ประยูรยิ้ม มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 3 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร คือเหยื่อที่ถูกนายรี ฆ่าปาดคอทิ้งศพหมกเพิงพักคนงานวางท่อประปา "เดอะลิงค์คอนโดมิเนียม" ซ.เหลือสุข ถ.สุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย ตายในชุดนุ่งผ้าถุงสวมเสื้อคอกระเช้าลายดอกมีคนพบศพตอนเช้ามืดวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา
เป็นคดีสยองที่เกิดขึ้นในท้องที่สน.พระโขนง
หลังเกิดเรื่องพ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รอง ผบก.น.5 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง พ.ต.ท.วีระวุฒิ มโนรส สวส. พ.ต.ท.ธนกฤต พรมดอนชาติ สวป. พ.ต.ท.วีระวุฒิ มโนรส สารวัตรเวรฯ พบมีดปลายแหลมที่ใช้สังหารผู้ตายตกอยู่ 1 เล่มจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายประมวล ประยูรยิ้ม อายุ 52 ปี บุตรชายของผู้ตาย ให้การว่า
มารดาพักอยู่กับพี่ชายซึ่งเป็นผู้รับเหมาวางท่อประปาของคอนโดมิเนียมดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุพี่ชายเดินทางไปต่างจังหวัดกับภรรยา ทำให้มารดาต้องพักอยู่เพียงลำพังที่บ้าน ซึ่งปลูกเป็นเพิงพักใกล้กับบ้านพักคนงานที่มีกว่า 100 คน "ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นนายรี คนงานที่เพิ่งรับเข้าทำงานได้ไม่นาน นั่งกินเหล้าอยู่ใกล้ๆ เพิงพักที่แม่อยู่ และตอนเช้ามืดก็มีคนได้ยินเสียงดังโครมคราม และเสียงแม่ร้อง แต่ไม่มีใครลุกออกมาดู จนกระทั่งเกือบสว่างจึงมีคนมาพบว่าแม่ถูกฆ่าตาย ส่วนนายรีได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ มีคนเห็นวิ่งขึ้นรถแท็กซี่ไป" นายประมวลกล่าว
ดังนั้น คนร้ายจะเป็นใครเสียมิได้นอกจากนายรี
อุทาหรณ์สอนใจคน!?! ไว้ใจแรงงานต่างด้าว เขมรฆ่าปาดคอแม่เฒ่า
การตามล่านายรีไม่ได้ยากเย็นอะไร ตำรวจเช็กข่าวจากสมัครพรรคพวกของมันไม่นาน ก็รู้ว่าหมอนี่หลบหนีไปกบดานอยู่กับเพื่อนๆ คนงานชาวเขมร
ที่แคมป์คนงานก่อสร้างภายในหมู่บ้านปริญสิริ ซ.เอกชัย 87 แขวงบางบอน เขตบางขุนเทียน ชุดทำงานของร.ต.ท.พงษ์ธวัช คงเสือ รอง สวป.สน.พระโขนง จ.ส.ต.ทรงชัย มาเฉลิม ส.ต.อ.วีระศักดิ์ เภาสู และส.ต.ท.กฤตย์ปกรณ์ เนียมสอน ผบ.หมู่(ป) สน.พระโขนง จึงจัดทีมไล่ล่าคนร้ายพร้อมนำหมายศาล ส1818/50 ลงวันที่ 11 ต.ค. 50 ศาลจังหวัดพระโขนง ไปเฝ้าจุดปิดล้อมจับกุมนายรีทันที
ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่สามารถตะครุบตัวนายรีไว้ได้
ขณะเดินทอดน่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่หน้าอาคารก่อสร้างภายในหมู่บ้านดังกล่าว จึงนำตัวมาสอบปากคำ นายรีให้การรับสารภาพว่า ฆ่าผู้ตายจริง แต่อ้างว่าทำไปเพราะถูกผู้ตายด่าทออย่างหยาบคาย ทั้งๆ ที่เข้าไปขอยืมเงินผู้ตายเพียงแค่ 100 เพื่อเอาไปซื้อเหล้าเท่านั้น แต่ผู้ตายไม่ให้แถมด่ากลับมาด้วยถ้อยคำที่รับไม่ได้
"ผมโมโหเลยตรงเข้าไปตบผู้ตายจนคว่ำ ก่อนจะตามเข้าไปใช้มีดปาดคอซ้ำอีก 3 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่งไป หลังจากนั้นก็วิ่งหนีออกไปเรียกรถแท็กซี่ ให้ไปส่งที่แคมป์คนงานของเพื่อนที่ซอยเอกชัย 87 จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับได้" นายรีให้การอย่างไม่สะทกสะท้าน
ตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพสรุปสำนวนส่งฟ้องทันที
คดีอุกฉกรรจ์ครั้งนี้ทำให้นางผ่อง หลวงธานี อายุ 46 ปี ลูกสะใภ้ของผู้ตายถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เนื่องจากนางผ่อง เป็นคนพานายรีมาทำงานรับเหมาก่อสร้างกับสามี เพราะก่อนหน้านี้มีเพื่อนฝากมาอีกที คิดไม่ถึงว่านายรีจะใจคอโหดร้ายฆ่าแม่สามีได้แบบนี้
"ตลอดเวลาที่นายรีทำงานอยู่ด้วยกัน ก็ไม่มีพฤติกรรมโหดร้าย ก่อนหน้านี้เพื่อนของฉันซึ่งทำงานเป็นผู้รับเหมาด้วยกัน โทรศัพท์มาฝากนายรีบอกให้ช่วยหางานทำให้ จึงรับไว้ทำงานด้วยโดยไม่ได้ขอดูเอกสาร เพราะเพื่อนบอกจะเอามาให้ในภายหลัง ที่ผ่านมา ก็เห็นว่านายรีทำงานขยันขันแข็งดี ไม่มีปริปากบ่นอะไร"
"ก่อนเกิดเหตุฉันให้เงินเขาไว้ 1 พัน เพื่อเป็นค่าแรงที่ทำงานให้ร่วมอาทิตย์ เขาเอาไปซื้อเหล้าแล้วยังเอามาให้แม่สามีไว้ 100 บอกว่าเป็นค่าอาหารที่ยายทำกับข้าวให้กิน ซึ่งก็เห็นว่าแม่สามีก็ยังเอ็นดูนายรีด้วยซ้ำ แม่เองก็มาบอกฉันว่า ให้รับนายรีเข้าทำงานด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉันก็ไม่รู้ว่าเขาทำลงไปได้อย่างไร เพราะแม่สามีก็แก่มากแล้ว ส่วนที่เขาอ้างว่าถูกแม่ด่าเลยแค้น ฉันไม่เชื่อเพราะแม่ไม่เคยด่าใครแบบนั้น" นางผ่องกล่าวด้วยความเศร้าใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นอุทาหรณ์อย่างดีว่าไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้าซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป ไว้ใจคนง่ายอาจต้องเจอกับเหตุร้ายแบบนี้