อนุมัติป.เป็ดประกันตัวอายัดเงิน-รถ

ป.ป.ส. อายัดเงินสดเกือบครึ่งล้านพร้อมรถยนต์ของกลาง ป.เป็ด เชื่ออาจได้มาโดยมิชอบหลังถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)

ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมสืบสวนในทางลับเดินทางไปลาวทำไม ขณะที่ศาลจังหวัดหนองคายให้ประกันตัว ป.เป็ด ด้วยหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.1 ล้าน เผย ป.เป็ด เตรียมลงสมัคร ส.ส.นครพนม สังกัดพรรคการเมืองดัง ด้านบัวแก้วเตือนคนไทยอย่าเสี่ยงลักลอบยาเสพติดไปนอก ระบุหลายประเทศโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต

ความคืบหน้าการจับกุม นายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือ ป.เป็ด อายุ 55 ปี อดีต ส.ส. นครพนม หลายสมัย

และนายวิเชียร อุปพงษ์ อายุ 28 ปี ลูกน้องคนขับรถ พร้อมยาไอซ์ 2.5 กรัม เงินสด 470,000 บาท เมื่อเย็นวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับรถผ่านด่านตรวจหนองสองห้อง ถนนมิตรภาพ สายหนองคาย-อุดรธานี ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จากการสอบสวนนายทนงรับสารภาพว่า ได้ซื้อยาไอซ์มาจากกรุงเทพฯ เพื่อเสพเองนั้น
        
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ต.ค. พ.ต.ท.สุจินต์ นาวาเรือน รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.เมืองหนองคาย รักษาราชการแทน ผกก. สภ.อ.เมืองหนองคาย มอบหมายให้ พ.ต.ท. เทียมชัย พูโคนทอง และ พ.ต.ท.ไพทูรย์ จันทรมนตรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 5 นาย ควบคุมตัวนายทนงไปยังศาลจังหวัดหนองคาย เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง


โดยเจ้าหน้าที่ได้พานายทนงเดินเท้า จาก สภ.อ.เมืองหนองคาย

ไปยังศาลที่อยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งนายทนงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดเดิม เป็นสวมเสื้อยืดคอโปโลสีเหลือง กางเกงสีดำ สีหน้าท่าทางมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด พ.ต.ท.สุจินต์ นาวาเรือน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะขอคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วย

แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร สำหรับสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ประกันตัวนั้น เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ประกอบกับผู้ต้องหาเคยต้องคดียาเสพติดระดับโลก หากอนุญาตให้ประกันตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและทำร้ายพยาน จึงต้องป้องกันไว้ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับนายทนงว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย      
        
ส่วนนายวิเชียร ซึ่งเป็นคนขับรถของนายทนง หลังจากเจ้าหน้าที่สอบปากคำอย่างละเอียดแล้วได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากเชื่อว่านายวิเชียรไม่มีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมของนายทนง      
        
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้อายัดเงินสดของกลางจำนวน 470,000 บาท พร้อมรถยนต์ฟอร์ด เอสเคป ทะเบียน ษณ 1604 กรุงเทพมหานคร ของนายทนงไว้ด้วย เนื่องจากนายทนงมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงเชื่อได้ว่าเงินและทรัพย์สินเหล่านี้อาจได้มาโดยมิชอบ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหามีสิทธิชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้    
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง ทางญาติของนายทนงได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.1 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวนายทนง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวได้ หลังจากนั้นนายทนงได้รีบเดิน ทางออกจากศาลทันที โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใด ๆ  

มีรายงานว่า จากการสืบสวนในทาง ลับทราบว่า นายทนงได้ทำหนังสือเดินทางไปยัง สปป.ลาว

โดยจะเดินทางผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่ง จ.หนองคาย ไปยังประเทศลาว ในวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่านายทนงไม่ได้เดินทางออกไป อย่างไรก็ตามจะได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบหาข้อมูลในการจะเดินทางไป สปป.ลาวของนายทนงว่าไปด้วยเหตุผลใด นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่ามีนักการเมืองจากต่างจังหวัดหลายคนเดินทางไปยังประเทศลาวในวันเดียวกันด้วย และมีรายงานข่าวด้วยว่า นายทนงตั้งใจจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครพนม ในนามพรรคการเมืองดังพรรคหนึ่ง     
        
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนนายทนงจนถึงเกือบเที่ยงคืน โดยนายทนงไม่ยอมให้รายละเอียดใด ๆ

เพิ่มเติม อ้างว่าจะให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายทนงเข้าห้องขังภายในโรงพัก อยู่รวมปะปนกับผู้ต้องขังชายคนอื่น ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้อำนวยความสะดวกอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงเสื่อผืนหมอนใบให้นายทนงใช้หลับนอนในห้องคุมขังเท่านั้น ทั้งนี้ ตลอดทั้งคืนนายทนง อยู่ในอาการเคร่งเครียด ไม่ยอมหลับนอน เอาแต่เดินวนไปวนมาตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า

ประเทศจีนและประเทศในกลุ่มลาติน  อเมริกา กำลังเข้มงวดกับผู้ลักลอบค้ายาเสพติด และสามารถจับกุมคนไทยที่ลักลอบนำยาเสพติดเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางการบราซิลได้จับกุมและดำเนินคดีกับชาวไทย ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองหลายราย ซึ่งชาวไทยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติด และมักจะขนย้ายยาเสพติดจากลาตินอเมริกามายังประเทศในแถบเอเชียรวมทั้งไทย และขบวนการลักลอบขนย้ายยาเสพติด มักใช้หญิงไทยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศต่าง ๆ โดยชาวไทยบางคนอาจรู้เท่าไม่ ถึงการณ์ หรือเห็นแก่เงินค่าจ้างในการดำเนินการ จึงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด
  
การลักลอบค้ายาเสพติดในประเทศต่าง ๆ จะถูกดำเนินคดีทุกกรณี แม้ในกรณีที่ยาเสพติดมีปริมาณเพียงเล็กน้อย

และหากปรากฏหลักฐานว่าเป็นการกระทำในลักษณะเครือข่ายขบวนการ โทษจะหนักยิ่งขึ้น อาทิ ในกรณีของจีนนั้นบทลงโทษสูงสุดของการลักลอบค้ายาเสพติดคือการประหารชีวิต และการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศจีนเป็นจำนวนมากกว่า 50 กรัม ผู้ต้องหาอาจได้รับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต หรือแม้ยอมรับสารภาพก็มีโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ถูกจับกุมจะได้รับความทุกข์ยากหากถูกจำคุกในประเทศต่าง ๆ เนื่องจากสภาพของเรือนจำ ข้อจำกัดด้านภาษา วัฒนธรรม และการติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องในไทย จึงขอประกาศเตือนให้ทราบ" อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าว.

ขอขอบคุณภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์