ป.รวบแก๊งปล้นรถอ้างตัวเป็น ตร.

"ผกก. 1 ป." นำทีมวางแผนล่อซื้อ หลังจากมีสาวใหญ่ ติดต่อสายลับจะนำรถดีแมคซ์ มาขายแค่ราคา 1 แสนบาท เผยแก๊งแสบไม่ธรรมดา นัดหมายดูของเอาไว้ตอน 1 ทุ่ม กว่าจะโผล่ต้องรอนานเกือบเที่ยงคืน แถมยังขัดขืนยิงต่อสู้ แหวกวงล้อมเผ่นหนีไปได้ 2 คน ล่าสุดนศ.หนุ่มสุดดีใจ แต่พอเห็นหน้าคนลงมือซ้อมจนปากแตกฟันหัก ระงับอารมณ์เดือดไม่ไหว ฉวยโอกาสสางแค้นต่อยคืนไปได้ 1 หมัด ขณะที่ทีมสืบสวนตร.สระบุรี โชว์ผลงานรวบยกแก๊งลักรถปิกอัพ พร้อมของกลาง 6 คัน
 
กรณีแก๊งคนร้ายลงมือปล้นรถปิกอัพอีซูซุ ป้ายแดง ทะเบียน จ-0361 กรุงเทพมหานคร ของนายธนกร ผจงจิตสม นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะจอดแวะปัสสาวะอยู่ริมถนนสายบางนา-ตราด เหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ของสภ.อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ช่วงเช้ามืดวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้รุมทำร้ายนายธนกร พร้อมอ้างตัวเป็นตำรวจมาจับตัวเพราะว่านายธนกร ไปแอบมีสัมพันธ์กับเมียของเจ้านายเลยต้องนำไปยิงทิ้ง แต่นายธนกร ร้องขอชีวิตจึงได้รับการปล่อยตัวทิ้งริมถนน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. ได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งปล้นรถยนต์ ผู้ต้องหา 3 คนคือ นายทนงศักดิ์ ทาลัย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 3 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร นายบัญชา ขาวผิว อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 7 ต.ทุ่งมน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร และนางชุติมณฑ์พร บุดดานอก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ถนนศิริราษฎร์ศรัทธา ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลางรถปิกอัพอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีฟ้า ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม หมายเลข ตษ 5269 กท.
 
ทั้งนี้สืบเนื่องจากพ.ต.อ.วิชิต ปักษา ผกก. 2 บก.ป. ได้รับรายงานจากสายลับมาว่า

จะมีคนนำรถปิกอัพอีซูซุรุ่นดีแมคซ์ มาขายในราคาถูกคันละ 1 แสนบาท โดยนัดดูรถเอาไว้ที่ภายในซอยพหลโยธิน 35 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักรหลังทราบเรื่องพ.ต.อ.วิชิต จึงรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง จากนั้นได้วางแผนร่วมกับ พ.ต.ต.เมธา วงศ์อนันต์นนท์ พ.ต.ต.รัฐพล น้อยช่างคิด สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.ศตยุ ไชยสุวรรณ์ รองสว.กก.2 บก.ป. ปลอมตัวเป็นพ่อค้าเข้าไปติดต่อซื้อรถ นอกจากนี้ยังกระจายกำลังอีกส่วนคอยดักซุ่มโป่งเอาไว้
 
แต่พอถึงเวลานัดหมาย 19.00 น. วันที่ 8 ต.ค.

แก๊งคนร้ายคงยังไม่ค่อยเชื่อใจตำรวจที่แฝงตัวเป็นพ่อค้ามาติดต่อซื้อรถเท่าไรนักจึงแกล้งโยกโย้เปลี่ยนสถานที่นัดหมายตำรวจอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ นางชุติมณฑ์พร คนติดต่อนำรถมาขายให้กับสายลับพร้อมพรรคพวกเป็นชายฉกรรจ์อีก 4 คนได้มาปรากฏตัวที่โต๊ะสนุกเกอร์ภายในซอยพหลฯ 37 หลังจากนั้นมีการเรียกให้มาดูรถพร้อมขอเงินสด 1 แสนบาท ทางเจ้าหน้าที่พยายามถ่วงเวลาทำทีขอตรวจสอบ จากนั้นส่งสัญญาณให้กำลังตำรวจที่ซุ่มโป่งบุกจู่โจมจับกุมกลุ่มคนร้ายไหวตัวทันจึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น สามารถรวบไว้ได้ 3 คน หลบหนีไปได้ 2 คน

เพิ่งทำเป็นครั้งแรก โดยรถที่ปล้นมาได้จะนำไปขายให้กับนางชุติมณฑ์พร ราคาคันละ 1 แสนบาทเพื่อนำไปจำหน่ายให้ลูกค้า ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีไปได้อีก 2 คนคือนายเทพฤทธิ์ เด่นดวง อายุ 33 ปี และ นายมณี โสขำ อายุ 34 ปี อย่างไรก็ดี หลังจากตำรวจได้นำรถปิกอัพที่ยึดมาได้ไปตรวจสอบหมายเลขเครื่องยนต์ พบว่าเป็นรถของนายธนกร เพิ่งแจ้งหายเอาไว้ที่สภ.อ.บางพลี จึงรีบประสานนายธนกร มาดูรถของกลางทันทีสร้างความดีใจให้กับนายธนกร เป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นรถยนต์คันแรกที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงตนเอง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ภายหลังจากนายธนกร ได้มาดูรถด้วยความดีใจพร้อมขอบคุณตร.ชุดจับกุมทุกนาย ขณะที่ทางตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาให้ชี้ตัว พอเห็นหน้านายบัญชา นายธนกร ก็จำได้แม่นยำว่าเป็นคนที่ลงมือทำร้ายระหว่างอยู่บนรถจนปากแตกฟันหักโยกไปหลายซี่ นอกจากนี้ตลอดทางยังใช้เท้ากดตัวลงไปกับพื้นไม่ให้เงยหน้าขึ้นมาขู่จะยิงทิ้งตลอด เมื่อตำรวจนำตัวนายบัญชา มายืนใกล้ ๆ ทำให้นายธนกร ระงับอารมณ์โกรธไม่ไหวปรี่เข้าไปชกใบหน้าของนายบัญชา จนร่าง กระเด็นเกือบล้มทั้งยืนทำให้ตำรวจต้องเข้าไปห้ามทัพกันชุลมุน
 
ด้านพล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ เปิดเผยว่า

ก่อนหน้านี้ตนได้เน้นย้ำให้ตร.กองปราบฯ เร่งปราบปรามแก๊งโจรกรรมรถยนต์เพราะสร้างความ   เดือดร้อนให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำเป็นอย่างมาก บางคนกว่าจะเก็บเงินหาซื้อรถแต่ละคันมาได้ต้องทำงานอย่างหนักพอมาถูกโจรกรรมไปก็เดือดร้อนแสนสาหัส สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้ถึงจะให้การรับ สารภาพว่าเพิ่งทำเป็นรายแรกคงไม่น่าเป็นไปได้ สันนิษฐานว่าน่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง   จึงได้สั่งให้ขยายผลการจับกุมให้ถึงที่สุด
 
ส่วนที่ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สระบุรี ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อลงกรณ์ หทัยยุทธิ์ ผบก.ภ.สระบุรี ร่วมกันแถลงข่าวกรณี พ.ต.ท. โกศล วีรศาล รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.สระบุรี นำกำลังจับกุม นายบุญมา หรือม่อน วันเนาร์ อายุ 25 ปี นายอมรเทพ หรือบักกุ้ง สุขาตานนท์ อายุ 41 ปี หัวหน้าแก๊ง นายสมศักดิ์ หรือไก่ คงหิรัญ อายุ 41 ปี และนายปิยะรักษ์ ภิรมย์ อายุ 33 ปี พร้อมของกลางรถปิกอัพ 6 คันเป็นยี่ห้ออีซูซุ 4 คัน โตโยต้า 2 คัน อุปกรณ์การโจรกรรมอีก 1 ชุด จับกุมนายบุญมา ได้เป็นคนแรก เมื่อเช้ามืดวันที่ 9 ต.ค.ขณะนัดแนะพรรคพวกเพื่อเตรียมออกโจรกรรมรถยนต์ จากนั้นขยายผลตามจับกุมที่เหลือได้พร้อมของกลาง.