เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ต.ค.
พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.นำตัวนายเอ็ดเวิร์ด แอนเดรส ริโค เควนเตโร อายุ 27 ปี นายอเล็กซ์ โอคาตา มอนโชโว อายุ 29 ปี ชาวโคลอมเบีย และ น.ส.พัสวี เณรพลอย อายุ 22 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียน ภพ 5807 กรุงเทพมหานคร แหวนเงิน 185 วง สร้อยคอ กำไลข้อมือ และต่างหู รวม 134 ชิ้น เพชรชนิดต่างๆ 154 กะรัต โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มาแถลงต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ ด้วยการใช้วิธีทุบกระจกรถยนต์
พล.ต.ต.กฤษฎา กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ทะเบียน ภก 4855 กรุงเทพมหานคร ของนายนิรันดร์ พัฒนพงษ์ อายุ 35 ปี เซลส์แมนบริษัทจิวเวลรี่แห่งหนึ่ง ได้ทรัพย์สิน ทองคำน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เครื่องเพชร และเครื่องเงิน รวมมูลค่า 4 ล้านบาท เหตุเกิดที่ลานจอดรถ ห้างตะวันนาพลาซ่า เขตบางกะปิ กทม. ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.ลาดพร้าว
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า
จากการสืบสวนของ กก.สส.บก.น.4 ร่วมกับ บก.ตปพ. (191) ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นชาวโคลอมเบีย จึงวางแผนติดต่อล่อซื้อเครื่องเพชร โดยให้ผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปจริง จึงแสดงตัวจับนายเอ็ดเวิร์ดได้เป็นคนแรก ขณะมาส่งของกลางที่หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขารัชดาฯ ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. จากนั้นขยายผลตามจับนายอเล็กซ์ และ น.ส.พัสวีได้ที่หน้าร้านค็อกพิท ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมแก๊งของกลุ่มผู้ต้องหาอีก 1 คน อยู่ระหว่างการหลบหนี เร่งให้ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมแล้ว
ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ดรับสารภาพว่า
เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเมื่อปี 48 ปัจจุบันพาสปอร์ตหมดอายุแล้ว โดยทราบว่า ผู้เสียหายชอบเก็บเครื่องเพชรและทองคำที่นำไปส่งลูกค้าไว้ในรถเป็นประจำ จึงให้นายอเล็กซ์ขับรถติดตาม กระทั่งสบโอกาสผู้เสียหายเข้าไปจอดรถทำธุระในห้างตะวันนา ตนฉวยโอกาสลงมือทุบกระจกรถผู้เสียหายก่อนหยิบทรัพย์สินหลบหนีไป ต่อมาให้ น.ส.พัสวีแฟนสาวนายอเล็กซ์นำเครื่องเงินไปขาย ส่วนทองคำหนักกว่า 5 กิโลกรัม นำไปหลอมแล้วส่งขายที่ประเทศมาเลเซีย