จับซ้ำพระลามก กลับมาบวชใหม่

เพิ่งจะสึก แค่ข้ามวัน เพิ่มข้อหา เลียนสงฆ์


ตำรวจจับซ้ำพระอนาจารสาว เพิ่งถูกจับสึกไปวันเดียว รุ่งขึ้นกลับมาห่มเหลืองใหม่ อ้างวันโดนจับไม่ได้เปล่งวาจาสึก สอบถามพระผู้ใหญ่แล้วบอกยังไม่ถือว่าขาดจากความเป็นพระ เลยกลับมานุ่งจีวรใหม่อยู่สำนักสงฆ์เดิม ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คุมตัวส่งเจ้าคณะจังหวัดมีมติให้สึกแบบถาวร พร้อมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ตร.แจ้งข้อหาเพิ่มแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เผยประวัติก่อนบวชเคยมีอาการทางประสาทมาก่อน

จากกรณีพระวิเศษ ฉัตตะวโร อายุ 51 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ธุดงค์สถานเสถียรธรรมบรรพต และพระบุญเป็ง อัตตธัมโม อายุ 40 ปี พระลูกวัด ทำตัวเป็นหมอรักษาโรค

ด้วยวิธีพิลึกใช้เหล้าขาว 40 ดีกรี ราดที่หน้าอกหญิงสาวใช้มีดลงอาคมลูบไล้อ้างเพื่อรักษาโรคที่ถูกคุณไสย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาจับสึกพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำอนาจาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.ต.บุญยัง ญาวิลาศ สว.สป. สภ.อ.บ้านตาก จ.ตาก และนายสมศักดิ์ สะมะโน นักวิชาการศาสนา 7 หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการและประสานงาน สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตาก เดินทางไปที่สำนักสงฆ์ธุดงค์สถานเสถียรธรรมบรรพต เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพระวิเศษ และพระบุญเป็งได้กลับมาห่มผ้าเหลืองอยู่ที่วัดดังกล่าวอีก จึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบว่าทั้งสองกลับมาห่มผ้าเหลืองเหมือนเดิม


เมื่อพระวิเศษเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับระเบิดอารมณ์ด่าทอสาปแช่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและคณะเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา จ.ตาก เจ้าหน้าที่จึงได้รวบตัวไว้พร้อมให้ใส่ชุดขาว ก่อนนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่สภ.อ.บ้านตาก จากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่าพระวิเศษ ชื่อเดิมคือ นายพรชัย แหงมมา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.11 ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก อาชีพเดิมเป็นชาวไร่ ก่อนบวชมีอาการทางประสาทและได้เลิกกับภรรยา ต่อมาบวชเป็นพระอยู่ที่วัดเจดีย์ยอดทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพียง 2 พรรษา จากนั้นแยกตัวมาตั้งสำนักสงฆ์ธุดงค์สถานเสถียรธรรมบรรพต ส่วนพระบุญเป็ง เดิมชื่อนายบุญเป็ง หินเดช อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/2 ม.9 ต.สมอโคน อ.บ้านตาก จ.ตาก อาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป บวชเป็นพระยังไม่ได้พรรษา ทำหน้าที่เป็นหมอมือสองรักษาโรคและทำพิธีไล่คุณไสย

ทั้งสองคนให้การว่า ที่กลับมาห่มผ้าเหลืองเนื่องจากวันที่ถูกควบคุมตัวนั้นพวกตนไม่ได้เปล่งวาจาสึก

จึงสามารถกลับมาห่มผ้าเหลืองตามเดิมได้ และมีพระครูชื่อดังวัดใหญ่แห่งหนึ่งในตัวเมืองตาก ยืนยันว่าสามารถกลับมาห่มผ้าเหลืองได้เนื่องจากยังไม่ได้เปล่งวาจาสึก จึงไม่ถือว่าขาดจากการเป็นสงฆ์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังพระราชสารโมลี เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งคณะสงฆ์มีมติเห็นชอบให้ทั้ง 2 คน สึกขาดจากความเป็นพระ และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายของบ้านเมือง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ พร้อมควบคุมตัวไว้ในห้องขังเตรียมส่งฟ้องศาลดำเนินคดีต่อไป

นายชุมพร พลรักษ์ ผวจ.ตาก ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าของคดี เปิดเผยว่า

ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการพระสงฆ์ที่ประพฤตินอกรีต ไม่อยู่ในธรรมวินัย ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป เนื่องจากมีพระสงฆ์ส่วนน้อยทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสียและขอให้ชาวบ้านอย่าได้สนับสนุน โดยให้แจ้งไปยังเจ้าคณะจังหวัดหรือทางอำเภอเพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์